นนทบุรี ตร.รวบหลานปืนโหดเสพกัญชาเก็บกดจ่อยิงอาดับกลางวงข้าว
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 4 ธ.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. บางแม่นาง ได้รับแจ้งเหตุ มีชายถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย แพทย์ จาก สถาบัน นิติวิทยาศาสตร์ และ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร มูลนิธิปอเต็กตึ้ง รีบลุกตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณ ซอยข้างวัดวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร หมู่8 ต.หนองเพรางาย อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี บ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านชั้นเดียว ไม่มีบ้านเลขที่ หลังสีฟ้า อาศัยอยู่ทั้งหมด 8 คน ถัดไปด้านหลัง เป็นบ้านชั้นเดียวของผู้ก่อเหตุ คือนายนายจักพันธุ์ วิบุญกุล อายุ25ปี ได้ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ยิง นายจักรวรรดิ สุริยะ อายุ35 ปี เป็นอาแท้ๆเสียชีวิตบริเวณหน้าบ้าน สภาพศพนอนหงาย มีบาดแผลรูกระสุนบริเวณกลางหน้าอก
จากการสอบถาม นายจักพันธุ์ วิบุญกุล อายุ25ปี ผู่ก่อเหตุ กล่าวว่า ที่ตนก่อเหตุ เพราะมีเรื่องคับแค้นใจกับ ผู้ตายมานานแล้วซึ่งผู้ตายเป็นอาแท้ๆของตน ตนเก็บกดมาตลอด ทั้งถูกต่อว่า และมีปัญหาอื่นๆร่วมด้วย ขณะก่อเหตุ ตนถูกคำพูดที่เก็บกดจึงเข้าไปเอาปืนไปขุด ภายบริเวณบ้าน และใช้ปืน ออกมาหน้าบ้านของอา หลังจากนั้นมีการต่อสู้ กันสักพัก ก่อนที่ตนจะใช้ปืนยิงไป 1 นัดแล้ววิ่งหนีออกมา มีการเถียงกัน ไม่พอใจกันหลายเรื่อง ตนผิดเองที่ก่อเหตุดังกล่าว เพราะอาเลี้ยงตนมาตั้งแต่เด็ก ทีแรกตนเข้าไปคุยก่อนไม่ได้ใช้ปืน และตนมีการเสพกัญชามาก่อนหน้านี้ด้วย ตนซื้ออาวุธปืนเก็บไว้มานานแล้ว ซื้อมาเพื่อป้องกันตัว ซื้อมาราคา 30บาท พอเรื่องเกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจ ตนจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่และรับสารภาพทุกอย่าง เพราะอาเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวทุกคน
นายไพรฑูรย์ มังชาลี อายุ 38 ปี อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อนคนตาย (เสื้อสีแดง) เล่าว่า ตนนั่งกินข้าวอยู่ข้างคนตาย ผู้ก่อเหตุขับขี่รถจยย.เข้าไปด้านในและหยิบขวดมายืนอยู่ข้างหลังคนตายเพื่อจะฟาดหัว ตนเห็นจึงยืนขึ้นมาแย่งขวด จากนั้นผู้ก่อเหตุได้วิ่งเข้าไปหยิบปืนมายิงคนตาย ซึ่งผู้ก่อเหตุได้ยิงคนตาย 1 นัด ด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยเห็นทะเลาะกัน นั่งกินข้าวด้วยกันทุกวัน ตนอยู่ที่นี่มา 10 กว่าปีไม่เคยเห็นมีปัญหาอะไร ผู้ตายทำงานรับเหมาก่อสร้าง ส่วนผู้ก่อเหตุ อายุ 25 ปี ทำงานเป็นช่างซ่อมรถจยย. ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นญาติกัน แม่ของผู้ก่อเหตุเป็นพี่สาวคนตาย หลังผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงน้าตัวเองเสียชีวิตก็ได้วิ่งหลบหนีไป
นางสำรวย ศรีนครานุรักษ์ ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า คนก่อเหตุอยู่หลังบ้านติดกัน ตอนนี้หนีไปแล้ว ก่อนจะลงมือได้พูดว่า “ผมไม่มีอะไร ผมไม่มีอาวุธ ผมมาดี” แต่ตนคาดว่ามีอาวุธ เพราะเขาเดินหน้าตึงเลยก่อนจะเดินกลับไปแล้วเดินอย่างใจเย็นมา ตนก็ไม่ได้ระแคะระคายอะไร ผู้ตายมีแต่ช่วยเหลือหลาน ไม่รู้ตัวด้วยว่าหลานจะมาก่อเหตุ
เบื้องต้น จากการตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าบ้านข้างหลังเป็นของผู้ก่อเหตุจึงเข้าไปตรวจสอบ ได้พบหลุม ดิน ที่ผู้ก่อเหตุขุดไว้เพื่อหยิบปืน ออกมาใช้ในการก่อเหตุหลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุได้วิ่งหนี ไปที่แคมป์คนงาน ถัดจากบ้านตนเองประมาณ 300 เมตร และไปนอน ขดตัวอยู่กับแม่ในห้องพักคนงาน ก่อนที่จะโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบได้ทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น