วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2567

 นนทบุรี  ตำรวจส่งตัวป้าไก่แม่ค้าขายมะนาวมือตบทำร้ายผู้ช่วยพยาบาลรับทราบข้อกล่าวหา 3 คดี 



 จากกรณีเมื่อวันที่ 25 พ.ค.67 ที่ผ่านมา น.ส.แวว (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี พนักงานช่วยการพยาบาล เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อ ให้ดำเนินคดีกับแม่ค้าขายมะนาวในตลาดสดแห่งหนึ่งย่านเมืองนนท์ หลังถูกทำร้ายร่างกาย ด่าทอด้วยคำหยาบคาย และขอเงินทอน 450 บาทคืน โดยกล่าวหาว่า น.ส.แวว ไม่จ่ายเงินค่ามะนาว เป็นเงิน 50 บาท ขณะ น.ส.แวว ผู้เสียหายเอง ยืนยันว่าให้แบงค์ 500 บาทไปแล้วแม่ค้าเองก็ทอนเป็นเงินมาให้ 450 บาท แต่มายืนยันว่าไม่มีแบงค์ 500 บาทในตัวได้อย่างไร จนกระทั่งมาพบว่าที่แท้แบงค์ 500 บาท หล่นอยู่ใต้รถเข็นขายมะนาวของแม่ค้าเอง หลังเกิดเหตุ น.ส.แววได้รับความเสียหาย ถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บที่ถูกแม่ค้าคนนี้ทำร้ายกลางตลาดยืนยันจะเอาเรื่องดำเนินคดีจนถึงที่สุด



  น.ส.แวว ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่า วันเกิดเหตุช่วงเวลา 13.00 น. ตนได้แวะซื้อของในตลาดสดดังกล่าวและได้ไปเลือกซื้อมะนาวที่ร้านของคู่กรณี ในราคาถาดละ 20 บาท 3 ถาด 50 บาท พร้อมกับจ่ายเงินเป็นแบงก์ 500 บาทให้ไป ซึ่งทางแม่ค้าได้ทอนเงินกลับมาให้ตน 450 บาท พอรับเงินทอนมาแล้ว ตนจึงเดินไปเลือกซื้อของต่อที่ร้านใกล้กัน ระหว่างที่ตนกำลังเลือกซื้อของอยู่นั้น ปรากฏว่าแม่ค้าขายมะนาวคนนี้ได้เข้ามาจิกหัวกระชากเสื้อที่ตนสวมใส่ ก่อนจะระดมตบหน้าตนหลายครั้ง พร้อมกับด่าทอและกล่าวหาว่าตนเป็นคนขี้โกง ไปซื้อของเขามาแล้วไม่จ่ายเงิน โดยแม่ค้าขายมะนาวพยายามจะทวงเงินทอนคืนจากตนด้วยตลอดเวลา



  ตอนนั้นตนพยายามชี้แจงกับแม่ค้าขายมะนาวว่ามาตบตนเรื่องอะไร ตนได้ยื่นแบงก์ 500 บาท จ่ายค่ามะนาวให้ไปแล้ว ถ้าตนไม่ยื่นเงินให้ไปก่อนแล้วแม่ค้าจะทอนเงินทอน 450 บาทมาให้ตนได้อย่างไร แต่แม่ค้าขายมะนาวก็ไม่เชื่อตนตบหน้าด่าทอตน พร้อมกับพูดทวงเงินทอนย้ำๆอยู่แบบนั้น ก่อนจะมีคนเข้ามาห้ามปราม ตนถูกทำร้ายร่างกายจนอับอายไปทั้งตลาดแล้ว จึงต้องการดำเนินคดีกับแม่ค้าคนนี้ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งตัวตนไปตรวจบาดแผลที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อนำผลตรวจมาใช้ในการพิจารณาแจ้งข้อหากับแม่ค้ามะนาวรายนี้



   ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่บริเวณตลาดสดดังกล่าว พบป้าไก่ อายุ 64 ปี แม่ค้ารถเข็นขายลูกมะนาวสด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนยอมรับว่าในวันเกิดเหตุตนพักผ่อนน้อยเพราะนอนดึกตื่นเช้าขายของทุกวัน ตนเข้าใจผิดคิดว่าคู่กรณีไม่ได้จ่ายแบงค์ 500 บาทให้ เพราะตนหาไม่เจอไม่มีแบงค์ดังกล่าวอยู่ในกระเป๋า จึงไปตามหาและขอเงินทอน 450 บาท เพราะตนฐานะยากจน ต้องเลี้ยงสุนัขถึง 5 ตัว ยอมรับว่าตนทำร้ายกระชากคอเสื้อเขาและตบหน้าไป 1 ทีไม่ได้จิกหัวหรือทำร้ายหลายครั้ง ถ้าหากคู่กรณีจะดำเนินคดีหรือให้จ่ายเงินค่าเยียวยาค่าปรับ ตนคงไม่มีแน่คงต้องยอมติดคุก แต่ถ้าติดคุกก็อยากฝากผู้ใจบุญทุกคนช่วยเอาสุนัขที่เลี้ยงไว้ 5 ตัว ไปดูแลต่อด้วย ทั้งนี้อยากขอความเห็นใจให้คู่กรณียกโทษอย่าเอาเรื่องราวตนเลย



  ความคืบหน้าของคดีนี้นั้นเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 ธันวาคม 67 ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี ป้าไก่ พร้อมด้วยเพื่อนแม่ค้าอีก 2 คน พร้อมด้วยผู้เสียหายคือนางสาวแววและแฟนหนุ่ม เดินทางเข้าพบอัยการศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังพนักงานสอบสวนสภ.เมืองนนทบุรี แจ้งข้อกล่าวหา ป้าไก่ในข้อหาทำร้ายร่างกาย



   แต่ทางผู้เสียหายต้องการดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทและกักขังหน่วงเหนี่ยวด้วย ทางอัยการศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี จึงให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พิมพ์สำนวนข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหา เพื่อส่งฟ้องศาลแขวงตามที่ผู้เสียหาย ร้องขอ เพื่อขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด





  น.ส.แวว ซึ่งไม่สะดวกในการให้ถ่ายภาพ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่ขอยอมความ อยากให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย หลังเกิดเหตุจนถึงทุกวันนี้ต้องกินยา ระบายความเครียดทุกคืนน้ำหนักลดลงหลายกิโลกรัมไม่อยากให้ป้าแกไปทำแบบนี้กับคนอื่นแล้วเพียงได้รับโทษแค่ปรับ อยากให้เป็นคดีตัวอย่างเป็นอุทาหรณ์กับสังคม ว่าคุณจะทำอะไร ควรคิดให้ดี บ้านเมืองมีกฎหมายไม่ใช่นึกจะทำร้ายร่างกายใครก็ทำ ส่วนคำพิพากษาตัดสินออกมาเช่นไรตนก็พร้อมยอมรับ ถือว่าทำดีที่สุดแล้วในเรื่องนี้

  ด้านป้าไก่ แม่ค้าขายมะนาวในตลาดสดซึ่งเดินทางมาในวันนี้พร้อมด้วยเพื่อนแม่ค้าอีก 2 คน กล่าวด้วยเสียงเศร้าสร้อยว่า ตนมาพบอัยการรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมยอมรับว่าทำร้ายผู้เสียหายจริงก็อยาก วิงวอนขอร้อง (ยกมือไหว้) ให้ผู้เสียหาย สงสารและเห็นใจตนเอง เพราะตนเป็นเพียงแม่ค้าแก่ๆคนหนึ่งที่หาเช้ากินค่ำอยู่คนเดียวต้องดูแลสุนัขอีก 5 ตัวที่ไม่มีคนเลี้ยง วันนี้ก็มีเพียง 1,000 บาท ที่พ่อค้าในตลาด สงสารและมอบมาให้ หากถูกปรับมากกว่านี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง แล้วก็ฝากขอโทษกับผู้เสียหายในเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น