พาณิชย์จัดขบวน“ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันทั่วประเทศ”เทศกาลปีใหม่
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 ธ.ค.2567 ที่บริเวณโถงด้านหน้ากระทรวงพาณิชย์ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ผู้ประกอบการค้าน้ำมัน ร่วมปล่อยขบวนรถ“ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันทั่วประเทศ”
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ ในเรื่องของการดูแลค่าครองชีพ การสร้างความเป็นธรรมในด้านราคาและปริมาณสินค้าโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ และได้สังการกำชับให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของสถานีบริการน้ำมัน เนื่องจากเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางไป-กลับภูมิลำเนา และเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ เป็นจำนวนมากกรมฯ ได้จัดชุด "สายตรวจเฉพาะกิจตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมัน" ซึ่งเป็นการตรวจเข้มที่เป็นมาตรการเสริมในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเริ่มการตรวจสอบตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 และจะมีการจัดอีกครั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในส่วนกลางประสานความร่วมมือกับกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน และในส่วนภูมิภาค ได้บูรณาการกับผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และพลังงานจังหวัด ในการตรวจสอบความถูกต้องของหัวจ่ายสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งเป็นการระดมตรวจสอบนอกเหนือจากการดำเนินการปกติของเจ้าหน้าที่สายตรวจชั่งตวงวัด โดยสายตรวจเฉพาะกิจนี้มุ่งเน้นตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักที่ประชาชนเดินทางจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลออกสู่จังหวัดต่างๆ หรือเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัด และพื้นที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค
ทั้งนี้ เป้าหมายการตรวจสอบของสายตรวจเฉพาะกิจ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในถนนเส้นทางหลักและในเขตพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศอย่างน้อย 2,000 สถานี ครอบคลุมประมาณ 60,000 หัวจ่าย หรือ 25% ของจำนวนหัวจ่ายสถานีบริการน้ำมันหลักทั่วประเทศ โดยมีการจัดสายตรวจทั้งหมด 51 คันออกตรวจสอบทั่วประเทศแบ่งเป็นรถสายตรวจในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 19 คัน และรถสายตรวจตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ 32 คัน
นอกจากนี้ กรมฯ ได้จัดทำโครงการ "หัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน" โดยจะมีการมอบป้ายสัญลักษณ์โครงการฯให้แก่บริษัทผู้ค้าน้ำมันที่ให้ความร่วมมือกับกรบกรมฯ สมัครเข้าร่วมโครงการฯ และรายงานผลการตรวจสอบให้กรมฯ ทราบเป็นประจำทุกเดือนตามเงื่อนไขโครงการฯ ปัจจุบันนี้ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ แล้วกว่า 7,000 สถานี ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมและสร้างความมั่นใจยิ่งขึ้น
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอฝากถึงประชาชนที่ใช้บริการสถานีบริการน้ำมันควรสังเกตุมาตรที่ตู้จ่ายน้ำมัน ก่อนเติมยอดชายและจำนวนลิตรต้องเป็นเลขศูนย์ และเมื่อเติมเสร็จให้ดูยอดขายกับจำนวนลิตรให้ถูกต้องด้วย เพื่อรักษาสิทธิของตนเอง โดยเฉพาะหากใช้บริการจากสถานีบริการที่ได้รับป้ายสัญลักษณ์โครงการ "หัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน" จะได้รับปริมาณครบถ้วนถูกต้องอย่างแน่นอน และกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเติมน้ำมันสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569 แอปพลิเดข้นไลน์ AMRDIT หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หากพบสถานีบริการใดใช้หัวจ่ายที่คลาดเคลื่อนหรือไม่มีเครื่องหมายคำรับรอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และสถานีบริการใดดัดแปลงหัวจ่ายให้คลาดเคลื่อนมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในมุ่งเน้นในการกำกับดูแลและสร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบความถูกต้องเที่ยงตรงของหัวจ่ายน้ำมันตามสถานีบริการในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งประชาชนเดินทางไป-กลับภูมิลำเนา และเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆเป็นจำนวนมาก กรมการค้าภายในได้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบ โดยจัด"สายตรวจ เฉพาะกิจตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมัน" ออกปฏิบัติการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 โดยร่วมมือกับกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และพลังงานจังหวัด ซึ่งเป็นการระดมตรวจสอบนอกเหนือจากการดำเนินการปกติของเจ้าหน้าที่สายตรวจชั่งตวงวัด โดยเน้นสถานีบริการน้ำมันที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลัก หรือเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัด และพื้นที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค
ดังนั้น เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในการกำกับดูแลหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานีบริการ ให้มีความถูกต้องเที่ยงตรง กรมฯ ได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ทั้ง 10 บริษัทอีกทั้งบริษัทเอกชนที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยตรวจ เข้าร่วมการตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันกับสายตรวจเฉพาะกิจของกรมการค้าภายใน เพื่อให้โครงการประสบผลสำเร็จและเป็นไปตามวัตถุประสงค์
พาณิชย์จัดขบวน“ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันทั่วประเทศ”เทศกาลปีใหม่
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 ธ.ค.2567 ที่บริเวณโถงด้านหน้ากระทรวงพาณิชย์ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ผู้ประกอบการค้าน้ำมัน ร่วมปล่อยขบวนรถ“ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันทั่วประเทศ”
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ ในเรื่องของการดูแลค่าครองชีพ การสร้างความเป็นธรรมในด้านราคาและปริมาณสินค้าโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ และได้สังการกำชับให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของสถานีบริการน้ำมัน เนื่องจากเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางไป-กลับภูมิลำเนา และเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ เป็นจำนวนมากกรมฯ ได้จัดชุด "สายตรวจเฉพาะกิจตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมัน" ซึ่งเป็นการตรวจเข้มที่เป็นมาตรการเสริมในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเริ่มการตรวจสอบตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 และจะมีการจัดอีกครั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในส่วนกลางประสานความร่วมมือกับกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน และในส่วนภูมิภาค ได้บูรณาการกับผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และพลังงานจังหวัด ในการตรวจสอบความถูกต้องของหัวจ่ายสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งเป็นการระดมตรวจสอบนอกเหนือจากการดำเนินการปกติของเจ้าหน้าที่สายตรวจชั่งตวงวัด โดยสายตรวจเฉพาะกิจนี้มุ่งเน้นตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักที่ประชาชนเดินทางจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลออกสู่จังหวัดต่างๆ หรือเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัด และพื้นที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค
ทั้งนี้ เป้าหมายการตรวจสอบของสายตรวจเฉพาะกิจ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในถนนเส้นทางหลักและในเขตพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศอย่างน้อย 2,000 สถานี ครอบคลุมประมาณ 60,000 หัวจ่าย หรือ 25% ของจำนวนหัวจ่ายสถานีบริการน้ำมันหลักทั่วประเทศ โดยมีการจัดสายตรวจทั้งหมด 51 คันออกตรวจสอบทั่วประเทศแบ่งเป็นรถสายตรวจในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 19 คัน และรถสายตรวจตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ 32 คัน
นอกจากนี้ กรมฯ ได้จัดทำโครงการ "หัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน" โดยจะมีการมอบป้ายสัญลักษณ์โครงการฯให้แก่บริษัทผู้ค้าน้ำมันที่ให้ความร่วมมือกับกรบกรมฯ สมัครเข้าร่วมโครงการฯ และรายงานผลการตรวจสอบให้กรมฯ ทราบเป็นประจำทุกเดือนตามเงื่อนไขโครงการฯ ปัจจุบันนี้ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ แล้วกว่า 7,000 สถานี ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมและสร้างความมั่นใจยิ่งขึ้น
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอฝากถึงประชาชนที่ใช้บริการสถานีบริการน้ำมันควรสังเกตุมาตรที่ตู้จ่ายน้ำมัน ก่อนเติมยอดชายและจำนวนลิตรต้องเป็นเลขศูนย์ และเมื่อเติมเสร็จให้ดูยอดขายกับจำนวนลิตรให้ถูกต้องด้วย เพื่อรักษาสิทธิของตนเอง โดยเฉพาะหากใช้บริการจากสถานีบริการที่ได้รับป้ายสัญลักษณ์โครงการ "หัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน" จะได้รับปริมาณครบถ้วนถูกต้องอย่างแน่นอน และกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเติมน้ำมันสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569 แอปพลิเดข้นไลน์ AMRDIT หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หากพบสถานีบริการใดใช้หัวจ่ายที่คลาดเคลื่อนหรือไม่มีเครื่องหมายคำรับรอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และสถานีบริการใดดัดแปลงหัวจ่ายให้คลาดเคลื่อนมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในมุ่งเน้นในการกำกับดูแลและสร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบความถูกต้องเที่ยงตรงของหัวจ่ายน้ำมันตามสถานีบริการในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งประชาชนเดินทางไป-กลับภูมิลำเนา และเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆเป็นจำนวนมาก กรมการค้าภายในได้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบ โดยจัด"สายตรวจ เฉพาะกิจตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมัน" ออกปฏิบัติการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 โดยร่วมมือกับกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และพลังงานจังหวัด ซึ่งเป็นการระดมตรวจสอบนอกเหนือจากการดำเนินการปกติของเจ้าหน้าที่สายตรวจชั่งตวงวัด โดยเน้นสถานีบริการน้ำมันที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลัก หรือเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัด และพื้นที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค
ดังนั้น เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในการกำกับดูแลหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานีบริการ ให้มีความถูกต้องเที่ยงตรง กรมฯ ได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ทั้ง 10 บริษัทอีกทั้งบริษัทเอกชนที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยตรวจ เข้าร่วมการตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันกับสายตรวจเฉพาะกิจของกรมการค้าภายใน เพื่อให้โครงการประสบผลสำเร็จและเป็นไปตามวัตถุประสงค์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น