นนทบุรี พระพยอมติงหลังมีคนนำบทสวดมนต์ไปแต่เป็นเพลงทำให้ศาสนาเสื่อม
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2567 หลังจากมีคนแต่งตัวคล้ายพระนำบทสวดมนต์ของชาวพุธทไปแต่งเป็นเพลงทำให้ศาสนาเสื่อเสียคาดว่าเป็นการบ่อนทำลายในศาสนาไม่น่าจะสนในในบทสวดมนต์ไปแต่งเป็นเพลง เนื้อหาสับสนวนเวียน ไม่เป็นไปตามลำดับขั้นตอน เป็นการกระทำของคนขาดศรัทธา ชาวพุทธต้องรู้ทันและช่วยกันหาทางป้องกัน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เข้ากราบนมัสการ พระพยอมกัลยาโณเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว
กล่าวว่า เรื่องการแต่งเป็นเพลงมันมีมานานแต่ว่าเพลงล็อคไอ้ใส่เข้าไปดิ้นแล้วมีภาพพระแบบนี้มันไม่เคยมีเช่นเมื่อก่อนเราก็เคยได้ยินใช่มั้ยองค์ใดประสัมพุทธนี่ก็คือเริ่มต้นให้มันออกมาเป็นเพลงและตามจริงแล้วเนี่ยนะถ้าเป็นตามที่พระพุทธเจ้าตรัส ห้ามฟังเพลงการละเล่นดูกันละเล่นชนิดที่เป็นข้าศึกต่อกุศลถ้าเขาทําออกมามันแล้วเนี่ยมันเป็นข้าศึกต่อกุศลไปแล้วแต่ถ้าอย่างสมมุติเพลงคํารณหรือเพลงสมยศไม่รู้ฟังเสียงแกก็แห่นาคมาใจนึกให้ศรัทธาอยากบวชสักหนเพลงนั้นมันไม่มีเร้าร้อนมันไม่แร็พปุ๊บปั๊บปุ๊บปั๊บแต่พอเร่าร้อนเนี่ยมันกลายเป็นเรื่องธรรมะมันต้องสงบเย็นมันสวนทางกันถ้าร้องแล้วมันสงบเย็นฟังเสียงแตรก็แห่นาคมาใจไม่ใคร่บวชแต่คนบวชให้ไม่เห็นมีเศรษฐีก็กลัวจะยุ่งใจอะไรต่ออะไรเนี่ยเพลงเกี่ยวกับธรรมมะเนี่ยมันมีมานานแล้วแต่มันมีประยุกต์ไอ้ตรงที่มีแร็พและก็มีรูปพระไปร่วมวงแบบแร็พเนี่ยมันเสียเสียตรงจังหวะทํานองถ้าทํานองเกี่ยวกับเพลงศาสนาธรรมะมันต้องเยือกเย็นเราก็เคยได้ยินพุทธทางสะระณังคัจฉามิธรรมมังสะระณะเนี่ยมันมีมาแล้วแต่มันไม่ใส่จังหวะเร้าร้อนแบบนี้ไอ้เนี่ยมันไปเสียมันมีมานานแล้วล่ะไอเรื่องเพลงทําไมแต่ว่าฟังแล้วมันสงบเย็นมันไม่เร่าร้อนก็หลวงพ่อโตเป็นคนแต่งบนนี้ถ้ามีจะมาเล่นท่านสวดเยือกเย็นสวดสงบวด แล้วไปสวดเร้าร้อนกระตุ้นกิเลสมันก็กลายเป็นเพลงชนิดที่เป็นข้าศึกต่อกุศลเค้าก็ระบุไว้เลยศิลป์ 8 เนี่ยคนฟังได้เพลงเช่นค่าน้ำนม ฟังแล้วมันเร้าใจคิดถึงแต่ความดีกุศลคิดเป็นกุศลน่ะเพลงชนิดนี้ฟังได้แต่งได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น