วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2567

 นนทบุรี รองผู้การนนท์เร่งสอบปากคำด่วน เหตุเรือร้านอาหารจม-ผู้โดยสารรุมทำร้ายผู้ช่วยคนขับเรืออ่วม เผยถูกทำร้ายไม่ทราบสาเหตุ






เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ธ.ค.67 พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี ปฏิบัติราชการแทนผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วยพ.ต.ท.ก้องพิสิษฐ์ พฤกษาชีวะ รอง ผกก.ป.สภ.ปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจและฝ่ายสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่สำรวจจุดเกิดเหตุที่โป๊ะท่าเทียบเรือโดยสาร วัดสนามเหนือ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังเกิดเหตุเรือจมเมื่อคืนวันที่ 1 ธ.ค.67 พร้อมทั้งสอบปากคำนายพิสิฏฐ์ ชาวไกร อายุ 50 ปี ผู้บาดเจ็บ นายเอก (นามสมมุติ) คนขับเรือ และนายวิชิต ซ้ายเกล้า อายุ 53 ปี เจ้าของร้านอาหารและเป็นเจ้าของเรือ







นายพิสิฏฐ์ ผู้บาดเจ็บ ให้ข้อมูลว่า เหตุเกิดเวลาประมาณ 21.00 น. ขณะที่ตนกำลังนั่งเล่นดื่มเหล้าบนเรือรับจ้างส่งผู้โดยสารของร้านอาหารที่เกาะเกร็ดกับหลานชาย ซึ่งเป็นคนขับเรือ เพื่อรอรับผู้โดยสารกลับจากฝั่งเกาะเกร็ดไปยังฝั่งวัดสนามเหนือ ผู้โดยสารกลุ่มสุดท้าย จำนวน 13 คน (รวมคนขับเรือและตน) ลงเรือมาโดยมีผู้หญิง 1 คน

ระหว่างเดินทางไม่มีสิ่งผิดปกติ แต่เมื่อถึงโป๊ะท่าเรือฝั่งวัดสนามเหนือ ชายประมาณ 3-4 คนในกลุ่มผู้โดยสาร ได้รุมทำร้ายตนที่ใบหน้าโดยไม่ทราบสาเหตุ  คำพูดสุดท้ายที่ตนพูดก่อนถูกทำร้ายคือ “ค่าเรือคนละ 20” หลังจากนั้นตนถูกชกต่อยจนเรือจม แล้วตนก็จมไปพร้อมกับเรือตนพยายามเกาะสิ่งปลูกสร้างเพื่อเอาชีวิตรอด ก่อนที่หลานชายจะช่วยพาขึ้นฝั่งและส่งกลับบ้านโดยไม่ได้แจ้งตำรวจในวันเกิดเหตุ 







นายพิสิฏฐ์ ยืนยันว่าไม่ได้มีการท้าทายหรือมีปัญหากับกลุ่มผู้โดยสารก่อนเกิดเหตุ และเรื่องผู้หญิงกับลูกค้า ซึ่ฃปกติจะช่วยงานหลานชายเป็นประจำในฐานะผู้ช่วยคนขับเรือ  อาการบาดเจ็บตอนนี้ร่างกายมีบาดแผลฟกช้ำทั่วใบหน้าและลำคอ อ้าปากกินข้าวลำบาก  แต่ในขณะเกิดเหตุไม่ได้ต่อสู้หรือขัดขืน เพียงแค่ยกมือป้องกันตัว นอกจากนี้ยสูญเสียเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนและโทรศัพท์มือถือที่จมน้ำไปพร้อมเรือ หลังจากตนรู้สึกค




นายสิทธิ์ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี เจ้าของร้านอาหาร/เจ้าของเรือ กล่าวว่า เมื่อเช้าตนได้เข้าไปที่กรมเจ้าท่าเพื่อชี้แจงและบันทึกเหตุการณ์ มันเป็นช่วงเวลาเพียงนิดเดียวที่มีเหตุ เมื่อคืนตนทราบเพียงว่าเรือคว่ำแต่เพิ่งจะมารู้เหตุการณ์จริงตอนที่มากู้เรือ มูลค่าความเสียหายหลักแสน และค่ากู้เรืออีก 20,000 บาท แต่ก็มีวิธีการแก้ไขให้ใช้งานได้ปกติ ซึ่งปกติแล้วเรามีมาตรการในการให้บริการเรือไม่เกิน 10 คน/รอบ เรือลำนี้ไม่ใช่เพียงรับ-ส่งแค่ลูกค้าที่ร้าน แต่เป็นเรือแท็กซี่รับ-ส่งทั่วไป ชาวบ้านก็ขึ้นโดยสารได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรแต่ก็คิดว่าเป็นสัญญาณเตือนให้เพิ่มมาตรการในความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นยิ่ง ส่วนคนขับเรือและคนดูแลเรือเขาขับเรือของเกาะอยู่แล้ว และเคยขับเรือเล็ก ตอนนี้เราให้เขามาขับเรือใหญ่เพื่อรับ-ส่งผู้โดยสาร หลังจากนี้ก็จะมีการพูดคุยกับคู่กรณีและดูว่าค่าเสียหายมูลค่าเท่าไหร่ ก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย 




นายเอก (นามสมมุติ) คนขับเรือ เล่าว่า ตนไม่ทราบเหตุการณ์ที่แน่ชัด เนื่องจากขณะเกิดเหตุไม่ได้เห็นชัดเจน หันมาอีกทีก็พบว่าเรือจมลงแล้ว นายเอกกล่าวเพิ่มเติมว่า ปกติตนจะเน้นย้ำให้ผู้โดยสารนั่งอย่างเรียบร้อยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และอยากฝากเตือนผู้โดยสารทุกคนว่าไม่ควรดื่มสุราเมาจนเปลี่ยนนิสัย






ด้านพ.ต.อ.ภูมิธัช เปิดเผยว่า ตำรวจไม่ได้รับแจ้งเหตุในคืนเกิดเหตุ ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ต้องตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่าคนขับเรืออาจดื่มสุราทำให้ไม่กล้าแจ้งความ อย่างไรก็ตาม วันนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อหาข้อเท็จจริง ทางตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของโป๊ะเรือและการควบคุมมาตรฐานผู้ให้บริการร่วมกับกรมเจ้าท่าและเทศบาลนครปากเกร็ดไว้อยู่แล้ว เรามีบทเรียนคดีของน้องแตงโม นิดา โดยคดีนี้จะเร่งดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงสืบสวนตัวผู้ก่อเหตุเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร็วที่สุด ส่วนเรือที่เสียหายเจ้าของเรือจะทำการฟ้องร้องทางแพ่งต่อไป


******หมายเหตุ ****** แจ้งเบลอหน้า และตราสัญลักษณ์เสื้อร้าน ของนายสิทธิ์ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี เจ้าของร้านอาหารเจ้าของเรือ***** ย้ำให้เบลอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น