นนทบุรี วงจรปิด ตร.รวบหนุ่มลักทรัพย์ร้านรถจยย.ซ้ำ 2 ครั้ง บอกอยากได้ไว้ใช้ แม่ร่ำไห้ลูกชายป่วยซึมเศร้าไม่ยอมรักษา
วันที่ 3 ธ.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด นำโดย พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พร้อมด้วย พ.ต.ต.ดิลก ลาดศิลา สว.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมจับกุมตัวนายณัฐพงศ์ หรืออ๊อฟ คล่องแคล่ว อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ พร้อมของกลางกว่า 10 รายการ ได้แก่ 1.รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซ่า สีดำ 1 คัน 2.กุญแจรถจยย. 1 ดอก 3.หมวกนิรภัยสีแดง 1 ใบ 4.โทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 สีเงิน 1 เครื่อง 5.ฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิด 6.จอคอมพิวเตอร์ LG ขนาด 24 นิ้ว 7.คอมพิวเตอร์ AMD 1 เครื่อง 8.อุปกรณ์ช่างจำนวน 6 ชิ้น 9.น้ำมันเครื่องและของเหลวต่างๆ รวม 5 รายการ 10.แบตเตอรี่รถจยย. 1 ชิ้น 11.เสื้อผ้าและรองเท้าที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 25/357 หมู่ 2 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 67 เวลา 08.15 น. นายธนภัทร ตันตระบัณฑิตย์ เจ้าของร้านจำหน่ายรถจยย.ในพื้นที่บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ด ว่ามีเหตุลักทรัพย์ที่ร้าน โดยพบร่องรอยงัดแงะบริเวณด้านหลังร้านและฝ้าเพดานเสียหาย ตรวจสอบทรัพย์สินพบว่าหายไปหลายรายการ รวมถึงรถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซ่า และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่ 1 ธ.ค. 67 เวลาประมาณ 02.37 น. พบว่านายณัฐพงศ์ (ผู้ต้องหา) สวมเสื้อคลุมสีดำ ใส่กางเกงขายาวสีดำ สวมแว่นตา ใส่หมวกแก๊ปสีขาว และหน้ากากอนามัย ได้เดินจากบ้านมุ่งตรงไปที่ร้านจำหน่ายรถจยย.ของผู้เสียหาย บริเวณริมถนนแจ้งวัฒนะ จากนั้นก็ได้บุกเข้ารื้อค้นภายในร้าน ก่อเหตุขโมยรถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซ่า สีดำ 1 คัน หลังจากค้นเจอกุญแจภายในร้าน โดยเข็นรถเข้าซอยหลังร้านแล้วขับขี่หลบหนีออกไป
ต่อมาวันที่ 2 ธ.ค. 67 เวลา 02.41 น. กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนายณัฐพงศ์ (ผู้ต้องหา) ได้ขับขี่รถจยย.ของน้องชาย มาก่อเหตุขโมยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ น้ำมันเครื่องและของเหลวอีกหลายรายการ จากนั้นได้ขับขี่รถจยย.หลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุพักอยู่ที่บ้านในพื้นที่ต.บางตลาด จึงเดินทางไปตรวจสอบ โดยพบว่าภายในบ้านของผู้ต้องหามีรถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซ่า สีดำ 1 คัน จอดอยู่ โดยคลุมผ้าเอาไว้ แต่ตำรวจได้เห็นเลขตัวรถดังกล่าว ซึ่งเป็นคันเดียวกันกับผู้เสียหายจึงที่ได้แจ้งความไว้ และทำการเรียกเจ้าของบ้านลงมาพูดคุย นายณัฐพงศ์ (ผู้ต้องหา) ได้ลงมาพร้อมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในวันที่ 1 ธ.ค. 67 เวลาประมาณ 02.37 น. และอีกครั้งในวันที่ 2 ธ.ค. 67 เวลาประมาณ 01.00 น. ถึง 02.00 น. โดยทรัพย์สินที่ขโมยมาทั้งหมดนำไปเก็บไว้ที่บ้าน ตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ”
นายณัฐพงศ์ (ผู้ต้องหา) กล่าวว่า ตนก่อเหตุเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เลือกที่จะก่อเหตุร้านนี้เพราะคิดว่าขโมยง่ายและร้านปิดอยู่ ซึ่งเข้าไปก่อเหตุซ้ำ 2 ครั้ง ครั้งแรกขโมยรถจยย. ส่วนครั้งที่ 2 ขโมยอุปกรณ์ช่าง และคอมพิวเตอร์ สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุคืออยากได้รถมาใช้งาน ไม่ได้จะเอาไปขาย ปกติตนทำงานออนไลน์อยู่ที่บ้าน วันนี้ถูกตำรวจจับแล้วก็ยอมรับผิด อยากขอโทษผู้เสียหายทุกคน ตนเสียใจและสงสารแม่ที่ทำแบบนี้ พอโดนจับจึงคิดได้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยก่อเหตุที่ไหน หากพ้นโทษก็จะไม่มาทำแบบนี้อีก
น.ส.น้อย (นามสมมุติ) แม่ของผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนออกจากบ้านไปขายของตอนเช้า และกลับประมาณ 22.00 น. ของทุกวัน ตนยืนยันว่าไม่เห็นรถจยย.คันที่ลูกชายไปขโมยมา ส่วนคอมพิวเตอร์ก็เห็นแค่แสงไฟ และลักษณะคล้ายที่ตนเคยซื้อให้ลูก ซึ่งได้ถามแล้วลูกชายบอกว่าไปขนกลับมาจากเพื่อนที่เคยยืมไป ซึ่งตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก่อนหน้านี้ลูกชายตนมีอาการป่วยเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง และไม่ออกจากบ้านมา 2 ปีแล้ว ล่าสุดเพิ่งจะมาออกจากบ้านประมาณ 3-4 ครั้ง ตนไม่ทราบสาเหตุว่าลูกชายของตนเป็นอะไรคิดแต่จะฆ่าตัวตาย ตนต้องคอยซ่อนมีดและยื้อแย่งมีดกับลูกชายมาแล้วหลายครั้ง ตนเคยจะพาไปรักษาแต่ไม่สำเร็จ สมัยเรียนลูกชายของตนกินโปร และเสพกัญชา โทรปรึกษาหมอก็บอกว่าหากใช้ระยะยาวจะมีผลข้างเคียง เมื่อซักครู่ถามลูกชายเรื่องรถจยย.ก็บอกว่าเอาซ่อนไว้ข้างบ้านและรอให้ตนออกไปทำงานก่อนถึงจะเข็นเอาเข้ามาในบ้าน
หลังจากที่น.ส.น้อย (นามสมมุติ) ได้พบหน้านายณัฐพงศ์ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นลูกชายของตน ได้โผลเข้ากอดพร้อมร้องไห้ กล่าวสั้นๆทั้งน้ำตาว่า ”ตนพยายามจะรักษาลูกชายแต่ทำไมถึงไม่ให้ความร่วมมือและทำแบบนี้“
น.ส.วรรณรดา แสนศักดิ์ อายุ 39 ปี ผู้จัดการร้าน กล่าวว่า ตอนแรกยังไม่ทราบเรื่องเนื่องจากติดวันหยุดร้าน พอเช้าวันจันทร์ตนได้มาเปิดร้านพบฝ้าในร้านหล่นลงมา และมีของหาย รวมถึงรถจยย. 1 คัน จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งผ่านไปเพียง 24 ชม. หลังแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับตัวคนร้ายได้ทันที ทรัพย์สินในร้านที่คนร้ายขโมยไปได้แก่ รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซ่า 350 ตัวใหม่ล่าสุด , คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 ชุด และอื่นๆ รวมถึงฮาร์ดดิสของกล้องวงจรปิดในร้านด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามของคืนได้ทั้งหมด มูลค่าประมาณ 2 แสนกว่าบาท ตนได้มีการพูดคุยกับคนร้ายยอมรับกับตนว่าคิดสั้น อยากได้รถจยย.เอามาใช้งาน ลงมือก่อเหตุคนเดียวไม่ได้มีใครร่วมมือด้วย หลังจากนี้ทางร้านจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของสภ.ปากเกร็ด ที่สามารถจับตัวคนร้ายพร้อมของกลางทั้งหมดคืนได้อย่างรวดเร็ว
*** เบลอหน้าแม่ผู้ก่อเหตุด้วยครับ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น