วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

 นนทบุรีต่อข่าว นายสมเกียรติ ท่าพระเจริญ ซึ่งเป็นเจ้าของ บจก.

พงษ์บัญชา อินดัสทรี้ ชี้แจงพร้อมขอโทษยอมรับผิดว่าตบสาวส่งของจริงและขอโทษเจ้าหน้าที่ ตร.ทั้ง สภ.และผกก.ที่พูดถึงตามคลิป




 เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2567 จากกรณี น.ส.อนัตติญา ออมทรัพย์ อายุ 27 ปี ร้องผ่านสื่อหลังจาก

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2567 เวลาประมาณ 17.00 น.ตนและเพื่อนได้ขับรถของบริษัท เจแอนด์ที บริษัท

ไปรับของที่ บจก.พงษ์บัญชา อินคัลหรี่ แลทที่ 69/2 หมู่ที่ 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

 เพื่อเข้ารับสินค้า เมื่อไปถึงนายสมเกียรติ ท่าพระเจริญ อายุ 62 ซึ่งเป็นเจ้าของ บจก.

พงษ์บัญชา อินดัสทรี้ จึงได้ดำเนินการขนสินค้าขึ้นรถของบริษัทฯ ไปแล้วจำนวน 4 คัน และรอรถอี่2 คันกำลังขับเข้าไปรับของทำให้เวลาช้าลงทำให้นายพงษ์บัญชา ไม่พอใจและเมาด้วยได้เข้ามาตบเข้าที่ท้ายทอยหลายครั้งทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ

   

นายสมเกียรติ ท่าพระเจริญ ซึ่งเป็นเจ้าของ บจก.

พงษ์บัญชา อินดัสทรี้ ได้พูดจาท้าทายเรียกเจ้าหน้าที่ ตร.ทั้ง สภ.รวมทั้งผกก.





ล่าสุดผู้สื่อผู่สื่อข่าวลงพื้นที่ บจก.

พงษ์บัญชา อินดัสทรี้ พบนายสมเกียรติ ท่าพระเจริญ  (คนตบสาวทอม) ซึ่งเป็นเจ้าของ บจก.กล่าวว่า ตนได้นัดกับคู่กรณีมารับสิ้นค้าตอน 5 โมงเย็น เนื่องจากสิ้นค้าค่อนข้างเยอะ จำนวนเป็น 1,000 ชิ้น ซึ่งนัดกันไว้แล้วตนก็ได้เตรียมพนักงานรอไว้ เพื่อที่จะขนของขึ้นรถช่วยเขา ปรากฏว่าขนขึ้นรถไปได้ 3-4 คัน ก็ยังเหลือรถอีก พวกตนก็ได้นั่งรอกันจนถึงเวลา 20.30 น. ในระหว่างรอตนก็ได้ซื้อเบียร์ ซื้อของเลี้ยงลูกน้องรอ พวกตนก็นั่งดื่มกันโดยไม่ได้ไปยุ่งกับฝั่งสาวทอมเลย อยู่ใครอยู่มันด้วยซ้ำ แต่ตนได้ยินฝั่งสาวทอมพูดกับพวกตัวเองว่า “ อย่าไปยุ่งกับมัน มันเมา ” โดยที่คนพูดเป็นคนที่ตนได้ตบท้ายทอยไป  ตนก็เลยคิดว่าพวกเขามีสิทธิ์อะไรมาว่า ว่าตนเมา ซึ่งในตอนนั้นเวลา 20.30 น. แล้วตนจึงเดินไปหาฝั่งสาวทอม ตนก็บอกให้ฝั่งสาวทอมขอโทษตน แต่เขาไม่ยอมขอโทษ ตนจึงเกิดอารมณ์โมโหจึงลงไม้ลงมือไป 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องไปตามคลิป ตนก็บอกว่าตนผิดพร้อมที่จะเยียวยา รับผิดชอบเต็มที่ ส่วนเรื่องงานก็เป็นไปในเรื่องของข้อตกลงที่ทาง TikTok ทางขนส่ง และทาง บริษัทของเขา ซึ่ง บริษัทตนขายของผ่าน TikTok และตกลงกันว่าให้ บริษัทนี้มาขนสิ้นค้า เป็นบริษัทกลางในการขนสิ้นค้า ตนก็ได้ติดต่อคู่กรณีไปเพื่อที่จะเคลียร์เรื่องดังกล่าว ไม่ว่าจะที่ บริษัทตน หรือ โรงพัก หรือที่ไหนก็ได้ พร้อมรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ตนพูดว่ารู้จัก ผกก. หรืออะไร จริงๆตนไม่รู้จักแค่พูดไปด้วยอารมณ์ ตนรู้จักแค่เพียงสายตรวจเท่านั้น ตนจึงโทรเรียกให้สายตรวจมาดู พอมาถึงก็ไม่มีอะไรเพียงแค่ทะเลาะวิวามกัน ก็แยกย้ายกันไป ตนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายน้องเขา เพียงแค่ว่าน้องเขาพูดแล้วไม่ยอมขอโทษตนเท่านั้นเอง พอมาถึงตอนนี้ตนก็ไม่ถือสาแล้ว เพราะถือว่าตนเป็นคนผิดที่ไปลงมือ พร้อมที่จะขอโทษ ตนอยากฝากถึงน้องว่า เฮียพร้อมดูแล และขอโทษที่ทำลงไป เมื่อคืน ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะลงมือ แต่ทำไปเพราะอารมณ์ พร้อมที่จะดูแล และเยียวยาและขอโทษกับเจ้าหน้าที่ ตร.ทุกคนที่ สภ.รวมทั้งผกก.ด้วย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น