นนทบุรี ชาวบ้านร้องตรวจสอบอาณาจักรหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยามูลค่า 3,000 ล้านบาท หลังถูกอายัดทรัพย์ แต่โครงการยังคงก่อสร้างไม่หยุด
จากกรณีที่มีการก่อสร้างคฤหาสน์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านสนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ซึ่งโครงการนี้มีการตรวจสอบพบว่าเป็นของนายทุนจีน ที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน กรณีนี้ ปปง.จึงได้ลงพื้นที่ติดประกาศยึดทรัพย์สินโครงการก่อสร้างดังกล่าว ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.193/2567 ซึ่งดำเนินการก่อสร้าง โดยบริษัท เหลียนเซิน จำกัด (นายทุนจีน) เป็นการยึดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้ชั่วคราว ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 11 โฉนด โดยห้ามทำนิติกรรมโอนย้ายทรัพย์สิน ภายใน 90 วัน
แต่กรณีนี้มีประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก ว่าเหตุใดเมื่อมีการยึดอายัดทรัพย์แล้ว แต่ทำไมยังมีแรงงานอยู่ในพื้นที่เข้า-ออกภายในโครงการ และยังคงมีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการกล่าวอ้างอีกว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องและได้รับผลประโยชน์ในเรื่องนี้
โดยวันนี้ (วันที่ 11 พ.ย. 67) ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด , ประธานกต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ และ ผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตัวแทนจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้มีการประชุมหารือกันถึงแนวทางในการทำความเข้าใจกับประชาชน และผู้ประกอบการโครงการก่อสร้างดังกล่าว พร้อมกับมีการลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการอีกครั้ง ปรากฏว่าโครงการดังกล่าวมีการติดป้ายใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ขนาดใหญ่ บริเวณหน้าโครงการ ขณะเดียวกันฝั่งหน้าโครงการทางซ้ายมือ ก็ได้มีการติดป้ายประกาศ จากทางปปง. ว่าทรัพย์สินนี้ถูกยึดและอายัด และอาจตกเป็นของแผ่นดิน ตามกฎหมายว่าด้วยการปราบปรามและป้องกันการฟอกเงิน และเมื่อเข้าไปในโครงการ พบว่าโครงการยังคงทำการก่อสร้างอยู่แล้ว ก่อสร้างไปแล้วกว่า 60% เท่าที่มองจากโครงสร้าง ก็ประเมินได้ว่าเป็นโครงการที่ค่อนข้างหรูหรา มูลค่า 3,000 ล้านบาท
ด้านนายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปปง. ซึ่งเป็นหน่วยงานในการดูแลเรื่องนี้โดยตรง ได้เข้าพูดคุยกับตัวแทนของโครงการ ถึงการก่อสร้าง ว่าแม้ตามกฎหมายแล้ว จะสามารถก่อสร้างโครงการ ตามกรอบระยะเวลา 90 วันได้ แต่เมื่อมีการร้องเรียนจากประชาชน จึงอยากให้เพิ่มมาตรการความปลอดภัย และ ตระหนักถึงปัญหาฝุ่น เสียงรบกวนจากประชาชนในพื้นที่ และอยากจะชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบว่าจริงๆแล้วประเด็นการก่อสร้างที่ผู้ประกอบการยังคงดำเนินการนั้น สามารถทำได้ แต่หากพ้นระยะ 90 วัน และมีการพิพากษาว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจฟอกเงินจริง มีคำสั่งยึดทรัพย์ออกมาแล้ว เวลานั้นถึงจะไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างต่อเติม ใดๆได้เลย ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกรณีการก่อสร้าง
ขณะที่ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด , ประธานกต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่มาที่โครงการดังกล่าว และได้พูดคุยกับตัวแทน เจ้าของโครงการ ปรากฏว่าทางเจ้าของโครงการยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือในการชะลอการก่อสร้างออกไปก่อน เพื่อความสบายใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยเรื่องนี้เป็นความสมัครใจของทางโครงการ ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และปปง.ไม่ได้บังคับใดๆ ก็ถือว่าเป็นการเข้าใจกันดีระหว่างเจ้าของโครงการและหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องฝากสื่อมวลชน ชี้แจงต่อประชาชนให้เข้าใจ และรับทราบทั่วกันด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น