วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

นนทบุรี ผกก.บางบัวทอง เตรียมขอหมายค้นบุกตรวจอู่รับจำนำรถ

 นนทบุรี ผกก.บางบัวทอง เตรียมขอหมายค้นบุกตรวจอู่รับจำนำรถ 


   จากรณีนาย ประเวศน์ จารุบุณย์ อายุ 55 ปี 

ลูกชายของนาย เชาวเรศน์ จารุบุณย์ อดีตเพชฌฆาตคนสุดท้ายของเรือนจำบางขวาง เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง หลังจากนำรถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น 320 i สีดำ ทะเบียน ฆพ 7988 กรุงเทพฯ ไปจำนำกับอู่รถแห่งหนึ่งในพื้นที่บางบัวทอง เป็นจำนวนเงิน 40,000 บาท โดยถูกคิดดอกเบี้ยร้อยละ10 % ต่อเดือน ต่อมารถคันดังกล่าวได้ถูกทางอู่รถนำไปฝากไว้ที่อู่อีกแห่งหนึ่งย่านไทรน้อย และได้ถูกพนักงานของเอู่รถนำรถออกไปขับหลายครั้งจนเกิดอุบัติเหตุทำให้รถได้รับความเสียหายหนัก ทางอู่ซ่อมรถในเครือประกัน 2 + ตีราคาค่าซ่อมประมาณ 570,000 บาท แต่ทุนประกันทำไว้เพียง 200,000 บาท ทางอู่ที่รับจำนำรถกับปัดความรับผิดชอบในส่วนต่างอีกเกือบ 4 แสนบาท ตนพยายามติดต่ออยู่หลายสิบครั้งก็ไม่ยอมรับสายรับโทรศัพท์อ้างว่าติดธุระ






  นายประเวศน์ เล่าต่อว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค.67 ได้นำรถยนต์ยี่ห้อ BMWW รุ่น 320 i หมายเลขทะเบียน ฆพ 7988 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของเพื่อนสนิทที่รักใคร่กันและเป็นนายกสมาคมชื่อดังแห่งหนึ่ง ไปจำนำไว้กับนายสมศักดิ์ และช่างพล ที่อู่ช่างพลเซอร์วิส ซ.หมู่บ้านศรีประจักษ์ 5 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยทางอู่คิดดอกเบี้ยร้อยละ10% ต่อเดือน โดยจำนำรถไว้ 40,000 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ได้ทราบจากนายสมศักดิ์ฯ ว่ารถของตนเพื่อนตนที่ตนนำไปจำนำไว้ เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนได้รับความเสียหายอย่างหนัก สภาพด้านหน้าพังยับถึงขนาดแอร์แบ็คทำงานทั้ง2ข้าง กระจกด้านหลังแตกเสียหายทั้งหมด และยังมีรอยบุบรอยยุบรอบคัน ต่อมาตนได้นำรถเข้าไปประเมินความเสียหายที่อู่ซ่อมรถ ซึ่งทางอู่ตีค่าซ่อมไว้ประมาณ 570,000 บาท แต่ในวงเงินประกันรถยนต์ของตนจ่ายได้แค่ 200,000 บาท ซึ่งรถไม่สามารถใช้งานได้ จึงได้แจ้งไปยังอู่ช่างพลเซอร์วิส แต่กลับได้รับการปฎิเสธเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายที่เป็นส่วนต่างประมาณ 370,000 บาท โดยได้มีการติดตามทวงถามจากทางอู่มาตลอดตั้งแต่เดือนกันยายน แต่ทางอู่กลับบอกว่าให้ตนไปเรียกค่าเสียหายจากพนักงานของทางอู่ที่ขับไปชนเอาเอง



 นายประเวศน์ เล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยเห็นรถ BMW คันที่ตนกับเพื่อนนำไปจำนำไว้ ไปจอดอยู่แถวริมถนนบริเวณห้าแยกปากเกร็ด แต่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลังก็สงสัยว่าทำไมรถของตนที่จำนำอยู่ที่อู่รถถึงมาจอดอยู่แถวนี้ได้ จึงได้โทรไปสอบถามกับทางเจ้าของอู่ว่าทำไมมีคนเอารถของตนออกมาขับแถมไม่ติดป้ายทะเบียนได้  ทางอู่ก็บอกว่าลูกน้องเอาไปขับและจะตักเตือนไปว่าอย่าทำแบบนี้ ในเวลาต่อมาก็ยังเห็นรถของตัวเองขับอยู่ข้างนอกและไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเหมืนเดิม จนกระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุรถชนแถวๆบางศรีเมือง ทางอู่แจ้งว่าลูกน้องได้แอบขโมยกุญแจรถและแอบเอารถออกไปขับเล่นเองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่จะให้ตนไปเรียกค่าเสียหายกับลูกน้องคนดังกล่าว ซึ่งตนมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทางอู่ควรมีความรับผิดชอบด้วย แต่กลับเพิกเฉยไล่ให้ไปเอาผิดกับลูกน้องคนที่ขโมยรถไปขับเอง  

  เบื้องต้นเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบในเรื่องของการปล่อยกู้ดอกร้อยละ10เปอร์เซนต่อเดือน ว่าผิดกฏหมายหรือไม่ ส่วนเรื่องส่วนต่างของค่าซ่อมรถหากเจ้าของอู่ไม่ยอมรับผิดชอบตนก็จะให้ทนายดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อไป



   ความคืบหน้าของคดีนี้นั้น เมื่อเวลา 10.00 น วันที่ 25 พฤศจิกายน 67 

พ.ต.อ. พฤฒ จำรูญศาสน์  ผกก.สภ.บางบัวทอง เปิดเผยว่า  เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นคดีนี้ ทางผู้เสียหาย สามารถดำเนินคดีได้ในทางแพ่ง ส่วนเรื่องที่อู่รถรับจำนุชแล้วปล่อยดอกร้อยละ 10% นั้น ตนพร้อมด้วยชุดสืบสวนและเทศบาล จะ ขอหมายค้น และลงพื้นที่ตรวจสอบอู่ดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ ทราบชื่อและที่ตั้งของอู่แล้ว หากพบว่ามีความผิดกฎหมาย ในด้านใด ไม่ว่าจะปล่อยดอกกู้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือเรื่องอื่นๆ ก็จะดำเนินคดี โดยเด็ดขาด

 ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่อู่รถดังกล่าว พบว่ามี ลูกน้องยังคงทำงาน กันปกติ โดยตัวช่างพลเจ้าของอู่รถ ยังไม่เข้ามา ทางลูกน้อง ซึ่งส่วนมากเป็นคนงานต่างด้าว ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์บอกว่าไม่รู้ เรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ต้องรอเจ้านายกลับมาก่อนและสอบถามเรื่องราวจาก เจ้าของอู่เอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น