วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2564

แขวนคอประท้วงหน้ากรมส่งเสริมสหกรณ์ร้องอธิบดีฯช่วยแก้ปัญหาที่ดินทำกินที่เรื้อรังกว่า 30 ปี

 แขวนคอประท้วงหน้ากรมส่งเสริมสหกรณ์ร้องอธิบดีฯช่วยแก้ปัญหาที่ดินทำกินที่เรื้อรังกว่า 30 ปี



วันที่ 21ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 11:30 น กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบกรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศทับพื้นที่ทำกิน ในเขต นิคมสหกรณ์สังขละบุรีและทองผาภูมิกว่า20 คนเดินทางมาจากจังหวัดกาญจนบุรี มาที่บริเวณหน้ากรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อเรียกร้องให้อธิบดีของกรมสงเสริมมาทำหน้าที่ของตนเองและรักษาอาณาเขตของตนที่ถูกอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศแนวเขตทับ  ซึ่งการเดินทางมาเรียกร้องกับอธิบดีกรมส่งเสริมในครั้งนี้นำโดยนายสุรินทร์ สุรินทร์ก้อน แกนนำผู้ที่ได้รับผลกระทบในกรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศแนวเขตทับกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์สังขละบุรีและทองผาภูมิพ. ศ. 2518 ที่มีปัญหายาวนานกว่า 30 ปีวันนี้ลงสุรินทร์ สุรินทร์ก้อน ใช้ผ้าขาวม้าที่พกติดตัวมาผูกกับเสาไฟฟ้าบริเวณหน้ากรมส่งเสริมสหกรณ์และแขวนคอตนเองเพื่อเป็นการประท้วงและเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 หน่วยงานมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทั้ง 2 อำเภอที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหลังที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศแนวเขตพื้นที่นิคมสหกรณ์สังขละบุรีทองผาภูมิกว่า 2แสน ไร่ มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 4,700 ราย ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหายาวนานมากกว่า 30 ปีหลังจากที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศแนวเขตทับกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์เจ้าที่นิคมสหกรณ์ก็มีได้ทำการรางวัดและออก






วัดรายแปลงร่วมไปถึงออก กศน 3 กศน 5 และโฉนดให้กับชาวบ้านเลย โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ข้อพิพาทระหว่าง 2 หน่วยงาน ทั้ง 2 หน่วยงานตกลงว่าต้องรอการบูรณาการแนวเขตที่ดินหนึ่งส่วนสี่พันหรือ onemap ประกาศใช้จึงได้ข้อยุติว่าที่ดินจะเป็นของใครแต่ระหว่างนั้นเองเจ้าหน้าที่อุทยานก็บังคับใช้กฎหมายจับกุมชาวบ้านในข้อหาบุกรุกพื้นที่อุทยานทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้อาณาเขตของนิคมสหกรณ์สังขละบุรีทองผาภูมิตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์สังขละบุรีและทองผาภูมิพ. ศ. 2518 ซึ่งอธิบดีกรมส่งเสริมก็เคยยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่าพื้นที่ในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์สังขละบุรีและทองผาภูมินั้นยังไม่มีการยกเลิกเพิกถอนหรือแก้ไขแนวเขตกฤษฎีกา แต่เจ้าหน้าที่นิคมสหกรณ์กับไม่มาปฏิบัติหน้าที่ของตนทำการออกรางวัดและปกป้องประชาชนที่อยู่ภายใต้นิคมสหกรณ์กับปล่อยให้เจ้าหน้าที่อุทยานมาบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ภายใต้กฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสังขละบุรีทองผาภูมิ 18 ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและได้ผลกระทบเรื่อยมาจนกระทั่งล่าสุดเมื่อปีพ.ศ 2562เป็นต้นมามี มาตรา 64 ของกฎหมายอุทยานออกมาบังคับใช้เจ้าหน้าที่อุทยานได้นำหลักแนวเขตป่าอนุรักษ์ป่าอนุรักษ์ปักบริเวณพื้นที่ของประชาชนและให้ประชาชนเซ็นเข้าร่วมโครงการป่า






อนุรักษ์ซึ่งหากเข้าร่วมแล้วประชาชนอาจจะเสียสิทธิ์การได้ถือครองที่ดินตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์สังขละบุรีและทองผาภูมิที่จะมีการออกวัดรายแปลงออก กศน 3 รวมไปถึงโฉนดในอนาคตอันส่งผลให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลเป็นอย่างมากการมาปักหลักแนวเขตของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมวันนี้ประชาชนจึงได้รวมตัวกันมายื่นหนังสือร้องเรียนที่อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อให้สั่งการเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อความชัดเจนของพี่น้องประชาชน การยื่นหนังสือลุงสุรินทร์ สุรินทร์ก้อนได้ทำการประท้วงโดยการผูกแขวนคอตนเองบริเวณหน้ากรมส่งเสริมเพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาแก้ไขและเข้ามาพูดคุยเจรจาจนกระทั่งรองอธิบดีกรมส่งเสริม นายประกอบ เผ่าพงศ์ ได้มาพูดคุยเจรจาเกลี้ยกล่อมลงสุรินทร์และรับปากว่าจะรับเรื่องของกลุ่มผู้รับผลกระทบและจะลงพื้นที่ไปแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดและทราบปัญหาพี่น้องประชาชนดีทำให้ลุงสุรินทร์ยอมที่จะมาเจรจา   โดยรองอธิบดีกรมส่งเสริม ได้แก้มัดผ้าขาวม้าที่ผูกคอลุงสุรินทร์ออก ก่อนจะพาไปไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือและสาบานว่าจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งนี้รองอธิบดีส่งเสริมสหกรณ์ได้เปิดห้องประชุมรับฟังคำชี้แจงปัญหากับชาวบ้านความเดือดร้อนของชาวบ้านและได้ประสานงานไปยังกรมอุทยานให้มาพูดคุยและมารับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนแต่ก็ไร้วี่แววของเจ้าหน้าที่อุทยานที่จะมาให้ข้อมูลต่อประชาชนรองอธิบดีกรมส่งเสริมจึงสรุปว่าวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2565 จะลงพื้นที่ไปยังบริเวณข้อพิพาทดังกล่าวในเขตพื้นที่จัดตั้งนิคมสหกรณ์สังขละบุรีทองผาภูมิที่พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น




 ซึ่งลุงสุรินทร์ สุรินทร์ก้อน ได้ยื่นข้อเสนอว่าหากลงพื้นที่ไปแล้วจะให้รองอธิบดีได้รับปากว่าจะอนุญาตให้ประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่นิคมสหกรณ์ได้ทำอยู่ทำกินได้และรับรองให้ทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว โดยรองอธิบดีก็รับปากกับลุงสุรินทร์และพี่น้องประชาชนที่มาเรียกร้องในวันนี้ พร้อมแจ้งกับพี่น้องประชาชนว่าจะสั่งการให้หน่วยงานที่อยู่ภายใต้นิคมสหกรณ์ออกไปทำงานทำตามหน้าที่และปักหลักแนวเขตของนิคมสหกรณ์ให้ชัดเจนเพื่อรักษาสิทธิ์ของนิคมสหกรณ์เพื่อความสบายใจของพี่น้องประชาชนและจะทำหนังสือแจ้งไปยัง อุทยานแห่งชาติเขาแหลมให้ถอนแนวหลักที่เป็นปัญหาที่ประชาชนเกิดความกังวลใจออกจากนอกพื้นที่ของนิคมสหกรณ์เพื่อความสบายใจของพี่น้องประชาชนจนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องแนวเขต   


สุวรรณ บัวโรย / ข่าวชัดประเด็นจริง ช่อง13สยามไทยรายงาน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น