วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ผู้ว่าปทุมธานียกเลิกงานประชุมแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเทศบาลเมืองคลองหลวงกะทันหัน ทั้งที่การเตรียมงานกว่า 2 อาทิตย์ ข้าราชการประชาชนโวยตั้งใจมาให้กำลังใจ ผู้ว่าไม่มาตามนัดหมาย


ผู้ว่าปทุมธานียกเลิกงานประชุมแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเทศบาลเมืองคลองหลวงกะทันหัน ทั้งที่การเตรียมงานกว่า 2 อาทิตย์ ข้าราชการประชาชนโวยตั้งใจมาให้กำลังใจ ผู้ว่าไม่มาตามนัดหมาย
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 10:30 นที่ห้องประชุมอำเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานี การประชุมแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเทศบาลเมืองคลองหลวง จากกรณีที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นที่เทศบาลเมืองคลองหลวงกับเจ้าหน้าที่เทศบาลและประธานสภาและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองคลองหลวง ในเรื่องที่ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและขัดคำสั่ง กทจ.รวมไปถึงการนำทรัพย์สินของราชการไปใช้ส่วนตัว จดเป็นเหตุไม่มีการโยกย้ายรองปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวงและนิติกรชำนาญการไปนอกพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาเป็นเวลา 3 เดือนตามกำหนด  แต่ย้ายไปยังไม่ครบกำหนดก็มีคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายพินิจ บุญเลิศ ให้ท่านรองปลัดและนิติกรชำนาญการกลับมาปฏิบัติหน้าที่เดิมโดยอ้างว่ากรณีที่ประธานสภาเข้าไปร้องเรียนที่จังหวัดนั้นเป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว จึงให้รองปลัดและนิติกรกลับมาปฏิบัติหน้าที่ดังเดิมโดยที่ยังไม่มีการตั้งสอบวินัยร้ายแรง กรณีที่มีการขัดคำสั่ง กทจ.ที่ไม่รับปลัดจุฑารัตน์ อิ่มชื่นศรีกลับเข้ามาทำงาน และเรื่องความผิดอื่นๆ











ตามมติ กทจ ปทุมธานีครั้งที่ 6/2561 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2561 และครั้งที่ 7/2561 เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ทั้งยังมีการจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบ กทม.ตามมติ กทจ.ปทุมธานีครั้ง
ที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2562 และครั้งที่ 6/2562 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบุคคลดังกล่าวไม่ได้ถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จนล่าสุดมีคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีตามคำสั่งที่ 953/2562 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 และคำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่ 247/2563 ลงวันที่ 13 มกราคม 2563 ขอให้เร่งรัดดำเนินการสอบวินัยร้ายแรงตามมติกทจ.จังหวัดปทุมธานี











 ดังนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีนายพินิจ บุญเลิศ จึงได้ทำหนังสือเรียนเชิญข้าราชการสมาชิกสภา พนักงานเทศบาลของเทศบาลเมืองคลองหลวงมาประชุมเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง    โดยมีเหตุผลของการประชุมว่า เนื่องด้วยปัจจุบันเทศบาลเมืองคลองหลวงอำเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานีไม่มีนายกเทศมนตรีและปลัดเทศบาลเกษียณอายุราชการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 โดยมีรองปลัดรักษาราชการแทนปลัดปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเป็นเหตุให้มีการบริหารงานของเทศบาลขาดผู้มีอำนาจในการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาทั้งปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนปัญหาความขัดแย้งระหว่างสมาชิกสภาเทศบาลและพนักงานเทศบาลเป็นต้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวท่านผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้นัดหมายประชุมผู้บริหารสมาชิกสภาเทศบาลและพนักงานเทศบาลทุกคนของเทศบาลเมืองคลองหลวงเพื่อนแนะแนวทางการบริหารงานเทศบาลการปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายของรัชกาล ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 10:30 น ณห้องประชุมอำเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานีทั้งนี้ให้นายอำเภอคลองหลวงและท้องถิ่นอำเภอคลองหลวงเข้าร่วมประชุมด้วยตามวันและเวลาดังกล่าวจากกำหนดการที่มีหนังสือแจ้งมาถึงในอำเภอคลองหลวง วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีหมายให้มีการประชุมตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมาแล้วแต่มีการเลื่อนการประชุมกระทันหันมาเป็นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 แทน ซึ่งอาจจะเป็นความบังเอิญหรือเป็นความจงใจหรือความตั้งใจที่จะมีการประชุมในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ทั้งที่อาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ตามว่าวันที่12 กุมภาพันธ์ 2563 นั้นท่านประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวงต้องไปขึ้นศาลธัญบุรีจากกรณีที่นิติกรชำนาญการฟ้องแกเกลี้ยว ว่าหมิ่นประมาทและเปิดเผยข้อมูลของตน จากกรณีที่สมาชิกสภาและประธานสภาตั้งอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง  หลังได้รับการร้องเรียนมาว่านิติกรชำนาญการเทศบาลเมืองคลองหลวงท่านหนึ่งได้ใช้รถข้าราชการไปก่อเหตุ ขนทรัพย์ ซึ่งศาลก็ได้ลงโทษแล้วว่ามีความผิดจริงในคดีนั้นซึ่งมีประชาชนได้นำเรื่องดังกล่าวมาร้องเรียนที่ประธานสภาเพื่อให้ตรวจสอบการนำรถหลวงไปก่อเหตุดังกล่าว จากการตรวจสอบและตั้งอนุกรรมการตรวจสอบนั้นเป็นเหตุให้นิติกรชำนาญการคนดังกล่าวได้ฟ้องแก้เกี้ยวในข้อหาหมิ่นประมาทและการนำข้อมูลส่วนตัวไปเปิดเผยซึ่งเบื้องต้นศาลชั้นต้นที่ยกคำร้อง แต่นิติกรชำนาญการยังอุทธรณ์คำสั่งศาลซึ่งวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลได้นัดประธานสภาและสมาชิกสภาไปฟังคำตัดสินของศาลอุทธรณ์กรณีดังกล่าว  เวลาประมาณ 9:30 น   ผลการตัดสินแล้วศาลอุทธรณ์ได้ยืนยันตามศาลชั้นต้นยกคำร้อง ซึ่งเวลานั้นประธานสภาและสมาชิกสภายังคงอยู่ในศาลแต่หากว่ามีการประชุมเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของสมาชิกเทศบาลเมืองคลองหลวงกับพนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวง   เหตุใดท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีจึงนัดหมายวันประชุมในวันที่คู่ขัดแย้งต้องไปขึ้นศาลเป็นการตั้งข้อสังเกตุว่า หากมีการ









ประชุมจริงจะเป็นการประชุมลับหลังคู่ขัดแย้งหรือไม่อย่างไรซึ่งการประชุมดังกล่าวมีการเรียนเชิญสมาชิกเทศบาลพนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวงแต่ไม่ได้เรียนเชิญประชาชนได้มีการรวมตัวของประธานชุมชน และประชาชนในเขตชุมชนต่างๆได้รวมตัวเดินทางมาให้กำลังใจผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีในการเดินทางมาเทศบาลเมืองคลองหลวงในครั้งนี้  ซึ่งกลุ่มประชาชนดังกล่าวได้มีการก่อตั้งประธานสภาชุมชนขึ้นมาเพื่อจะมาตรวจสอบการทำงานของข้าราชการและทำการถ่วงดุลอำนาจของเทศบาลรวมไปถึงคณะผู้บริหาร  เพื่อนำปัญหาในชุมชนของตน สะท้อนให้ทางเทศบาลได้รับทราบว่าปัจจุบันชุมชนต่างๆมีปัญหาอะไรบ้างที่ทางเทศบาลต้องเร่งรีบเร่งแก้ไขปัญหา
แต่พอถึงเวลา 10:30 น ในห้องประชุมอำเภอเมืองคลองหลวงจังหวัดปทุมธานีได้ประกาศที่ประชุมว่าผู้ว่าราชการติดภารกิจเร่งด่วนจึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุมในวันดังกล่าวจึงขอยกเลิกการประชุมและให้ข้าราชการกลับไปปฏิบัติหน้าที่ดังเดิม หลังจากสิ้นเสียงประกาศข้าราชการและประชาชนตั้งเดินออกจากห้องประชุมทันทีโดยมีประธานชุมชนที่เดินทางมาให้กำลังใจหรือมารอพบผู้ว่าราชการจังหวัดในครั้งนี้แสดงความไม่พอใจที่ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่เดินทางมาในวันนี้มีประชาชนบางส่วนเดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดปทุมธานีเพื่อไปตามหาผู้ว่าและมอบดอกไม้ให้แต่ก็ไม่ทราบว่าเจอหรือไม่

ส่วนข้อสงสัยที่เกิดคำถามจากประชาชนและสังคมสาเหตุที่ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีนายพินิจ บุญเลิศ ไม่ได้ มาประชุมในครั้งนี้นั้นอาจจะเป็นเพราะกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้ลงความเห็นว่ากรณีประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวงได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัดถึงปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นที่เทศบาลเมืองคลองหลวง จนเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองคลองหลวงไม่สามารถบริหารจัดการงานได้นั้นผู้ว่าได้ทำการตั้งอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและผู้ว่าราชการจังหวัดลงความเห็นว่ามีเรื่องดังกล่าวเป็นความขัดแย้งส่วนตัวและให้รองปลัดเทศบาลและนิติกรชำนาญการกลับมาปฏิบัติหน้าที่ดั้งเดิมนั้น    ทางผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้มีการนัดประชุมแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563  และอาจจะเชื่อว่าศาลจะตัดสินแล้วลงความเห็นว่าประธานสภามีความผิดฐานหมิ่นประมาทจริงตามที่นิติกรชำนาญการได้ร้องหมิ่นประมาทไว้ซึ่งถ้าเกิดว่าตัดสิน เช่นนั้นก็จะเป็นแนวทางเดียวกันกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้ลงความเห็นว่ากรณีประธานสภาและนิติกร รวมไปถึงรองปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวงนั้นมีความขัดแย้งส่วนตัวจริง
แต่เมื่อเวลา 09:30 น โดยประมาณศาลธัญบุรีได้อ่านคำพิพากษาและลงความเห็นว่ากรณีที่ประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวงงั้นได้เข้าไปตรวจสอบการทำงานของนิติกรชำนาญการที่นำรถหลวงไปใช้ส่วนตัวนั้น    ทางประธานสภาและสมาชิกเทศบาลเมืองหลวงก็ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้นไม่มีความผิดเพราะเข้าไปถ่วงดุลอำนาจระบบติดตามการใช้งบประมาณต่างๆที่ได้อนุมัติไปจึงลงความเห็นยกคำร้องในชั้นอุทธรณ์
ทำให้เกมส์ การเมืองที่วางไว้ผิดพลาดไป ประกอบกับผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีติดภารกิจด่วนจึงไม่ได้เดินทางมาประชุมในครั้งนี้จึงสร้างความเสียใจกับผู้ที่มีส่วนได้เสียและประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีเป็นอย่างมาก
ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอ้างว่าติดภารกิจเร่งด่วนนั้นจะเป็นจริงเท็จอย่างไรต้องไปตรวจสอบว่าวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีมีภารกิจอะไรบ้าง??? แล้วงบประมาณในการจัดห้องประชุมและการจัดเตรียมการประชุมรวมถึงอาหารว่างและอาหารสำหรับผู้เข้าร่วมประชุมและค่าใช้จ่ายต่างๆใครจะเป็นคนรับผิดชอบและต้องเสียค่าใช้จ่ายเสียเวลาไปเท่าไหร่กับการที่เกณฑ์ข้าราชการการประชุมที่มีการยกเลิกกะทันหันของผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีนายพินิจ  บุญเลิศ เรื่องนี้เป็นคำถามที่รอคำตอบจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น