วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมที่ดิน สำนักงานเขตบางกะปิ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งภายในซอยลาดพร้าว 130




สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช  เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมที่ดิน สำนักงานเขตบางกะปิ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งภายในซอยลาดพร้าว 130

ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ เจ้าหน้าที่สอบสวน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมที่ดิน สำนักงานเขตบางกะปิ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งภายในซอยลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ที่เกิดการฟ้องร้องระหว่างลูกบ้านกับบริษัทเจ้าของโครงการในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังมีการก่อสร้างและโฆษณาขายไม่ตรงตามที่จดทะเบียนจัดตั้งไว้







โดยทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า คดีนี้เริ่มต้นจากผู้เสียหายรายหนึ่งซื้ออาคารชุดดังกล่าว ที่มีการโฆษณาว่าสามารถเปิดเป็นร้านค้าและทำธุรกิจได้ โดยเปิดมาประมาณ 3 ปี นิติบุคคลของคอนโดฯ กลับบอกว่าไม่สามารถเปิดทำธุรกิจได้ เนื่องจากแบบแปลนผิดประเภท จึงเกิดการตรวจสอบพบว่าสำนักงานนิติบุคคล และห้องชุดที่เปิดเป็นบริษัทดังกล่าวมีความสูงเพียง 2.84 เมตร ตามกฎหมายระบุว่าต้องสูงจากพื้นด้านล่างสู่พื้นด้านบนไม่ต่ำกว่า 3 เมตร นอกจากนี้ยังพบว่าเดิมที่มีการทำประชาพิจารณ์ก่อนก่อสร้างและทำ EIA (รายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม) เป็นคอนโดมิเนียมโครงการเดียว 4 อาคาร จุดรวมพลหากเกิดไฟไหม้ อาคาร A-B ต้องไปรวมกันที่อาคาร C-D และอาคาร C-D ต้องรวมกันที่อาคาร A-B แต่ปัจจุบันพบว่าคอนโดฯ ถูกแบ่งออกเป็น 2 โครงการ พร้อมกับกั้นกำแพงตรงกลาง ลูกบ้านไม่สามารถข้ามไปมาได้ ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบสระว่ายน้ำพบว่าดำเนินการก่อสร้างผิดประเภท เนื่องจากโครงการนี้ ใน EIA ไม่มีสระน้ำและฟิตเนส จึงได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ก่อสร้างได้ แต่ในใบโฆษณากลับมีภาพของฟิตเนสและสระว่ายน้ำ ทำให้ฟิตเนสและสระว่ายน้ำปัจจุบันถูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำให้พื้นที่สีเขียวไม่ตรงตามที่ทำ EIA ไว้ สำนักโยธาธิการ เขตบางกะปิ จึงต้องสั่งปิดฟิตเนสและสระว่ายน้ำดังกล่าวตามกฎหมาย ลูกบ้านจึงได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากมีการจ่ายค่าส่วนกลางต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้






ทั้งนี้ ทนายดัง กล่าวอีกว่า เบื้องต้นลูกบ้านได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว เพื่อเอาผิดกับบริษัทเจ้าของโครงการแล้ว ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และจะแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.อาคารฯ ด้วย นอกจากนี้ จะดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีการปล่อยปละละเลยให้คอนโดมิเนียมแห่งนี้ มีการก่อสร้างขึ้นมาทั้งที่ EIA และแบบแปลนไม่ตรงตามที่มีการก่อสร้างจริง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น