วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2561

วรลักษณ์ ศรีสอาด สมาชิกพรรคประชาชาติชูบางกะปิเป็น “ชุมชนพหุวัฒนธรรมโมเดล” วรลักษณ์ ศรีสอาด หรือจูฟะห์ ผู้บริหารศูนย์อาหารฮาลาล ราม59 มินิพลาซ่า ซอยรามคำแหง 59 นี่คือหนึ่งนักธุรกิจหญิงที่มือก็ไกวดาบก็แกว่งที่น่าจับตามอง

วรลักษณ์ ศรีสอาด สมาชิกพรรคประชาชาติชูบางกะปิเป็น “ชุมชนพหุวัฒนธรรมโมเดล”
วรลักษณ์ ศรีสอาด หรือจูฟะห์ ผู้บริหารศูนย์อาหารฮาลาล ราม59 มินิพลาซ่า ซอยรามคำแหง 59 นี่คือหนึ่งนักธุรกิจหญิงที่มือก็ไกวดาบก็แกว่งที่น่าจับตามอง เธอบอกว่าถึงแม้ธุรกิจที่เธอทำไม่ทำให้เธอร่ำรวยมากมาย แต่เธอก็พร้อมที่จะลงไปแบ่งปัน หวังเป็นจุดเล็กๆ เป็นจุดเริ่มต้นที่จะลงไปทะลายความเหลื่อมล้ำรวยกระจุกจนกระจายของสังคมไทย หลังจากที่เธอทำหน้าที่เป็นผู้แบ่งปันในนามจิตอาสามาหลายปีทำให้เห็นปัญหามากมายที่อยากแก้ไข แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้เข้าไปแก้ปัญหาได้อย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ เธอจึงตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาชาติ ซึ่งเธอหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าการตัดสินใจก้าวมาเป็นสมาชิกพรรคที่มีความคิดและอุดมการณ์ตรงกับเธอจะทำให้การทำงานช่วยเหลือสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุด
ชูบางกะปิเป็น“ชุมชนพหุวัฒนธรรมโมเดล”
หลังจากที่จูฟะห์ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาชาติทำให้เธอได้มีโอกาสลงพื้นที่เขตบางกะปิซึ่งเป็นถิ่นของเธอ ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย รองหัวหน้าพรรคประชาชาติคนที่สองมาคอยเป็นพี่เลี้ยงช่วยเหลือ หลังจากได้ลงพื้นที่ในฐานะนักการเมือง เธอได้มองว่าบางกะปิซึ่งเป็นเขตที่เธอพำนักแห่งนี่คือชุมชนที่เป็นพหุวัฒนธรรมที่มีความลงตัวระหว่างความเป็นพุทธและมุสลิม
“จูฟะห์ได้ลงพื้น ได้มีโอกาสไป 'วัดตึก' มา ถ้าเอ่ยถึงชื่อนี้หลายคนอาจไม่คุ้นหูแต่หากเป็นคนบางกะปิจะร้องอ๋อทันทีเพราะคนย่านนี้จะรู้ดีว่าวัดตึกก็คือวัดเทพลีลานั่นเอง พอพูดถึงชื่อวัดตึก จูฟะห์จึงสัมผัสได้ถึงความเป็นพหุวัฒนธรรมในย่านบางกะปิเพราะที่นี่วัดกับมัสยิดจะอยู่คู่กัน และถูกเอ่ยชื่อคู่กันอยู่เสมอ อย่างวัดเทพลีลา ที่ชื่อเดิมคือวัดตึก ก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมัสยิดยามุ้ลอิสลาม (รามคำแหง 53 ซึ่งมีชื่อเรียกขานเดิมว่าสุเหร่าวัดตึก” จูฟะห์เล่าถึงความเป็นชุมชนพหุวัฒนธรรมของย่านบางกะปิที่น่าจะยกขึ้นมาเป็นพหุวัฒนธรรมโมเดลได้
ในฐานะเจ้าถิ่นจูฟะห์ พารองหัวหน้าพรรคคนที่สองและทีมงานไปนมัสการ พระเทพรัตนากร (ประสาร เตชสีโล)เจ้าอาวาสวัดเทพลีลา  ซึ่งพระเทพรัตนาการได้ฝากจูฟะห์และทีมว่าต้องให้ความสำคัญกับการศึกษา ถ้าเยาวชนมีการศึกษาปัญหาต่างๆก็จะไม่เกิด
“เมื่อก่อนบางกะปิ วังทองหลางจะแย่มากไปมาก็ลำบาก ถนนหนทางก็ไม่สะดวก หลังจากมีห้างสรรพสินค้า มีมหาวิทยาลัยรามคำแหง แถวนี้ก็เจริญขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องปัญหาของชุมชนก็ไม่มีอะไร จะมีปัญหาก็ฝั่งโน้น ฝั่งวังทองหลาง อาตมาอยากเห็นการพัฒนาเรื่องราวการศึกษา เพราะการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ อย่างโรงเรียนเทพลีลาก็ดีมันขึ้น แต่ก่อนเด็กจบ ป.6 ยังอ่านภาษาไทยไม่ออกก็มี ตอนนี้ได้ ผอ. บริหารดีก็ดีขึ้น” ท่านเจ้าอาวาสได้ฝากเรื่องการศึกษาของเยาวชนกับจูฟะห์และทีมงาน
วัดจันทวงศาราม หรือวัดกลาง คือสถานที่ถัดมาที่จูฟะห์ได้พาทีมงานลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยือน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากมัสยิดริดวานุ้ลอิสลามมากนัก ซึ่งมีชื่อเรียกขานเดิมว่าสุเหร่าวัดกลาง ต่อด้วยวัดพิชยญาติการาม หรือชื่อเดิมคือวัดใหม่ ก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมัสยิดยามีอุ้ลมุบตาดี ซึ่งก็มีชื่อเรียกขานเดิมว่า สุเหร่าวัดใหม่ ซึ่งจูฟะห์บอกว่า ชุมชนแห่งนี้วัดและมัสยิดจะอยู่คู่กัน เป็นชุมชนพุทธกับชุมชนมุสลิมที่อยู่คู่เคียงกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาอย่างยาวนาน
หลังจากนั้นทางจูฟะห์และคณะได้เดินทางไปที่วัดพระไกรสีห์ หรือวัดน้อยซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3
โดยท่านพระครูอุดมพัฒนคุณ เจ้าอาวาสวัดพระไกรสีห์ ได้ให้คำแนะนำและข้อคิดเห็นมากมายหลายประการโดยท่านเน้นย้ำว่าอยากให้ช่วยเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติดและปัญหาด้านเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน
หลังจากลงพื้นที่ วรลักษณ์ ศรีสอาด  จูฟะห์ มองว่าเขตบางกะปิแห่งนี้น่าจะผลักดันให้เป็นชุมชนพหุวัฒนธรรมโมเดล ให้กับหลายชุมชนได้ศึกษาเพื่อเป็นต้นแบบ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น