สุรินทร์ - ชาวนาเสือกค้าน! ขอประทานบัตรทำเหมืองแร่เขตนาบัว
วันที่ 19 ม.ค.2566 ที่ศาลากลางหมู่บ้านนาเสือก หมู่ที่ 5 ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ ชาวบ้านนาเสือก และใกล้เคียงกว่า 200 คน เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นของชุมชนในพื้นที่ขอประทานบัตร ที่ 4/2564 โดยห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงงานโม่บดหิน มุ่งเจริญ ชนิดหินบะซอลต์ เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ละมีภาคส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมบรรยายให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ทั้งตัวแทนจาก อุตสาหกรรมจังหวัดสุรินทร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป่าไม้ จังหวัดสุรินทร์ นายธงชัย มุ่งเจริญพร ตัวแทนโรงโม่หินมุ่งเจริญ และผู้นำหมู่บ้านฯ
พิธีกรชำนาญการได้บรรยายสรุปหลักการบริบทขั้นตอนแผนการดำเนินงาน ตามระเบียบข้อกฎหมาย ขั้นตอนต่างๆ ลักษณะของพื้นที่ ที่ขอประทานบัตรครั้งนี้ กว่า 462 ไร่เศษ ที่คำนึงถึงยุทธศาตร์ในพื้นที่ดังกล่าว ให้เกิดประโยชน์และไม่กระทบกระเทือนต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะ หมู่บ้าน วัด โรงเรียน และพื้นที่ทางการเกษตร ตามที่ประชาชนในพื้นที่ได้คัดค้าน เกรงมีผลกระทบหลายๆด้านเช่น มลภาวะทางอากาศ ด้านเสียงรบกวน ต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ฝุ่นละออง เศษหินจากโรงโม่ที่กระจาย ไปยังพื้นที่ทางการเกษตรทำให้ได้รับความเสียหายชุมชนเสียรายได้ จึงทำให้ชาวบ้านนาเสือกและใกล้เคียง คัดค้าน และเกรงว่าอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย นอกจากนี้กลุ่มตัวแทนชาวบ้าน ราว 6-7 ราย รวมพระสงฆ์ 1 รูป ตัวแทนจากวัดในพื้นที่ ได้จับไมค์ซักถามเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในหลายๆประเด็น โดยเฉพาะ เรื่องพื้นที่ขอประทานบัตรทับที่ป่าสงวนหรือไม่? เป็นแหล่งพื้นที่ป่าสมบูรณ์หรือไม่? วัดได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน? ปัญหาต้นไม้ แหล่งน้ำ ฝุ่นละออง ระบบทางเดินหายใจ ปอด และอื่นๆที่ตามมา เรื่องนี้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะให้คำตอบว่าอย่างไร?
นายธงชัย มุ่งเจริญพร อดีตนักการเมืองท้องถิ่น ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการโรงโม่หิน ได้กล่าวกับพี่น้องประชาชนชาวบ้านนาเสือกว่า ทุกอย่างทำตามขั้นตอน กระบวนการทางระเบียบข้อกฎหมายและมีกฎหมายใหม่เข้ามา อาจทำให้เกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ทั้งนี้ ตนก็ทำธุรกิจนี้มานาน มีหัวใจเป็นคนของประชาชนมาตลอด มีความปรารถนาดีต่อพ่อแม่พี่น้องชาวบ้านทุกๆคน อยากเห็นภาพของการพัฒนาในตำบลพื้นที่ เพื่อรองรับการบูรณาการเหมืองแร่ให้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคตต่อไป และที่สำคัญพื้นที่แถบนี้ที่ชาวบ้านทำมาหากินอยู่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ติดกับป่าสงวน การออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินจึงเป็นได้ยากมาก เพราะชาวบ้านเคยพยามทำมานานหลายปีแล้ว ตนจึงเห็นว่าน่าจะให้โอกาสที่ดีแก่ชาวบ้านทั้งส่วนตัวและภาพรวม พร้อมกับมีแนวทางที่จะปรับเป็นยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของเหมืองแร่ในชุมชนต่อไปในอนาคต อีกทั้งจะมีแนวทางการฟื้นฟูป่าและสิ่งแวดล้อมให้สมบูรณ์เป็นลำดับต่อไป แต่ทั้งนี้ก็พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นส่วนใหญ่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป นายธงชัยกล่าว
ทางตัวแทนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อุตสาหกรรม ได้บอกกับชาวบ้านว่า การประชุมวันนี้เป็นเพียงการขอความคิดเห็น ในมุมมองของชาวบ้าน ว่ามีความต้องการอะไร ซึ่งเป็นการพบปะกันครั้งแรกเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาพิจารณาในความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะไม่กระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องในพื้นที่ดังกล่าว เพราะยังมีการสำรวจพื้นที่และต้องผ่านกระบวนการอีกหลายๆอย่าง ขอให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนในพื้นที่สบายใจได้ ทั้งนี้จะได้นัดร่วมหารือแลกเปลี่ยนและหาข้อสรุปในลำดับต่อไป
#ข่าว ประชาเสรี / รายงาน#
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น