ทำแผน ต่างด้าวโหดจ้วงแทงเพื่อนร่วมชาติมากกว่า 10 แผล ย่านทุ่งครุ
วันที่ 10 ตุลาคม 2564 เวลา 12.00 น. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8 พร้อม พ.ต.อ. ธีรศักดิ์ ภิญโญ ผกก.สน.ทุ่งครุ นำผู้ต้องหาชาวพม่าฆ่าโหดเพื่อนร่วมชาติในพื้นที่ของ สน.ทุ่งครุ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในที่เกิดเหตุที่บ้านเช่าหลังหนึ่งภายในซอยประชาอุทิศ 69 แยก 7 โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความสงบเรียบร้อยในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยเป็นอย่างดี
จากกรณีที่นาย ชิยินทู อายุ 36 ปี เป็นชาวเมียนม่าถูกเพื่อนร่วมชาติใช้อาวุธมีดไม่ทราบขนาดจ้วงแทงตามร่างกายมากกว่า10 แผลจนตายคาที่ตรงบริเวณที่เกิดเหตุ ภายในบ้านแบ่งเป็นห้องให้เช่า ภายในซอยประชาอุทิศ69 แยก 7 ถนน ประชาอุทิศ แขวง ทุ่งครุ เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ตรงจุดเกิดเหตุนั้นเป็นบริเวณหน้าห้องพักอาศัยของผู้ตายเอง ซึ่งผู้ตายอยู่ในลักษณะนอนหงายหน้าอยู่กับพื้นไม่สวมเสื้อ สวมใส่กางเกงกีฬาสีแดง แล้วพบว่ามีร่องรอยจากการถูกของมีคมในลักษณะฟัน และแทงเข้าตามบริเวณร่างกายหลายแผล นอนจมกองเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุ แล้วผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็วและภายในที่เกิดเหตุยังพบกับรอยเลือดที่หยดเป็นทางยาวตลอดทางจนถึงหน้าปากทางเข้าบ้านหลังดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ บกน.8 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ ได้ติดตามจับกุมได้เป็นที่เรียบร้อย วันนี้จึงนำตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวพม่า ให้การยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา แล้วได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดต่างๆตั้งแต่เริ่มต้นของเหตุการณ์อย่างละเอียด โดยการนั้นได้นั่งดื่มสุราที่ห้องชั้น 2 ของบ้านหลังดังกล่าวกับเพื่อนจนได้ที่และได้ลงไปหาเรื่องกับผู้ตายจนเกิดการชกต่อยกันเกิดขึ้นและตนเองก็ได้รับบาดเจ็บจากการชกต่อยในครั้งนั้นจึงเห็นท่าว่าสู้ผู้ตายไม่ไหวจึงใช้อาวุธมีดแทงและฟันผู้ตายไปหลายแผล จนผู้ตายล้มลงกับพื้นส่วนลำตัวอยู่บนพื้นบ้านแล้วส่วนขาอยู่ภายในคลองน้ำหน้าห้อง แล้วจากนั้นทำทีว่าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าของบ้านเช่าหลังดังกล่าวแล้วอาศัยจังหวะที่เกิดความชุลมุนเกิดขึ้นจึงหลบหนีไปที่ซอยประชาอุทิศ 87 ซึ่งตนเองได้เช่าห้องพักอาศัยอยู่เมื่อไปถึงจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินข้ามถนนไปเรียกแท๊กซี่เพื่ิอหลบหนีไปอยู่บ้านเพื่อนอีกครั้ง จากนั้นไม่นานต่อมาตำรวจชุดสืบสวมจึงตามแกะรอยจนกระทั่งตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8 กล่าวว่า เราใช้วิธีกัดไม่ปล่อย และลงพื้นที่ตรวจสอบเสาะหา แล้วจากการที่ผู้ต้องหานั้นได้รับบาดเจ็บจากการทำร้ายกันเพราะร่องรอยของบาดแผลจะเป็นจุดเด็นในการสังเกตุได้ง่ายแล้วสืบจากการรักษาพยาบาลของผู้ก่อเหตุ จึงจับกุมได้ในที่สุด ส่วนเบื้องต้นสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้มาจากการตั้งวงดื่มเหล้าแล้วมีปากเสียงกันจึงนำมาซึ่งการเกิดอารมณ์ความรุนแรงแล้วก็เกิดการทะเลาะวิวาทจนเลยเถิดมาถึงขั้นลงมือจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในที่สุด ผู้ตายและผู้ก่อเหตุ เคยทำงานร่วมกันแล้วเป็นเพื่อนกันมาก่อน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาจากผู้ลงมือก่อเหตุรายนี้แล้ว ส่วนข้อหาอื่นอีกต้องตรวจสอบเชิงลึกต่อไปตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานกันอยู่อย่างเต็มที่แล้วต้องขอเวลาหน่อย ส่วนเรื่องมีผู้มาเกี่ยวข้องในการนำพาผู้ต้องหาหลบหนี นั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางการหลบหนีแล้วและถ้าหากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้างก็จะติดตามบุคคลผู้นั้นมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น