วันที่ 29 ก.ย. 61 กอ.รมน.กทม.(ท) โดย พล.ต.มนัส จันดี รอง ผอ.รมน.กทม.(ท) เป็นประธานจัดการแข่งขันฟุตบอลนัดกระซับมิตร ชิงถ้วยรางวัล ระหว่าง เจ้าหน้าที่กอ.รมน.กทม. พบกับ มวลชน กอ.รมน.กทม. โดยมี พ.อ.วิโรจน์ หนองบัวล่าง , พ.อ.ศรุติ รัตโนทัย และ พ.ท.สุรพัฒน์ นากสุวรรณ ร่วมกันจัดกิจกรรมร่วมกับกลุ่มมวลชน ณ สนามแฮปปี้สปอร์ตคลับ กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ร่วมกัน กิจกรรมดังกล่าวมีกลุ่มมวลชนต่างๆเข้าร่วมอย่างคึกคัก เช่น นักธุรกิจเพื่อความมั่นคง รุ่น8 , นักธุรกิจเพื่อความมั่นคง รุ่น9 , 007สายข่าวความมั่นคง ผลการแข่งขัน ทีมเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กทม. ชนะ ทีมมวลชนฯ ผลประตู 9 : 7 ซึ่งทีมที่ชนะการแข่งขัน เข้ารับมอบถ้วยรางวัลกับท่าน พล.ต.มนัส จันดี พร้อมถ่ายภาพร่วมกัน
วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561
วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561
*สังสรรค์ ฉันพี่~น้อง พบปะภาระกิจประชาธิปไตย
ในวันพุธที่ 26 เดือนกันยายน พ.ศ.2561 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ.ห้องประชุมรางน้ำ ชั้น5 โรงแรมปิคนิค กรุงเทพฯ มาร่วมแสดงความยินดี~อวยพรเนื่องในวันเกิดให้กับท่านทนายสมพรพร้อมกัน และ ร่วมรับประทานอาหารเย็นกันครับ...
ขอความร่วมมือ ทุกท่าน แจ้งเข้าร่วมสัมมนา การนำพา*ให้ยึดแนวทางในการปฏิบัติ และ เดินไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งรับฟังนโยบายจากผู้บริหาร และผู้ใหญ่หลายท่าน สำหรับสมาชิกทุกท่านที่มีใจให้กับองค์กรที่แท้จริง..เราจะสู้ไปด้วยกันเพื่อประชาธิปไตย
ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งๆขึ้นไป
ในวันพุธที่ 26 เดือนกันยายน พ.ศ.2561 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ.ห้องประชุมรางน้ำ ชั้น5 โรงแรมปิคนิค กรุงเทพฯ มาร่วมแสดงความยินดี~อวยพรเนื่องในวันเกิดให้กับท่านทนายสมพรพร้อมกัน และ ร่วมรับประทานอาหารเย็นกันครับ...
ขอความร่วมมือ ทุกท่าน แจ้งเข้าร่วมสัมมนา การนำพา*ให้ยึดแนวทางในการปฏิบัติ และ เดินไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งรับฟังนโยบายจากผู้บริหาร และผู้ใหญ่หลายท่าน สำหรับสมาชิกทุกท่านที่มีใจให้กับองค์กรที่แท้จริง..เราจะสู้ไปด้วยกันเพื่อประชาธิปไตย
ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งๆขึ้นไป
วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2561
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบรางวัลเกียรติยศ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติ จัดงานแสดงมุทิตาจิต อย่างสมเกียรติ ให้นายตำรวจระดับสูง ที่เกษียณอายุราชการ มีนายตำรวจที่มีชื่อเสียง"ปราบปราม" อาชญากรรมและยาเสพติด.จำนวนหลายนาย ปีนี้มีตำรวจขวัญใจประชาชน "สารวัตรแรมโบ้"พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ผกก.สืบสวน ภ.จว.อำนาจเจริญ รวมอยู่ด้วย เสียดายแทน ประเทศชาติและประชาชน..ผม "สารวัตรแรมโบ้"ขอกราบเรียน พี่ๆเพื่อนๆน้องๆและพี่ๆเพื่อนๆน้องๆสื่อมวลชนทุกท่าน และประชาชนอันเป้นที่รักยิ่ง กระผม มาขอ กราบลา.พวกท่านอำลาชีวิตการรับราชตำรวจ(ตำรวจมือปราบ)ของผมที่รักยิ่งด้วยชีวิตด้วยจิตและวิญญาณของการเป็นตำรวจผุ้พิทักษ์สันติราษฏร์ของผมที่มีทุกๆนาทีผมพร้อมเสมอที่จะเข้าปกป้องสุจิตชนประชาชนผุ้บริสุทธิทุกๆคนให้ปลอดภัยให้รอดพ้นปลอดภัยจาก คนชั่ว คนเลว คนพาล พวกคนร้าย อาชญากรร้ายแรง ต่างๆถึงแม้ว่าชีวิตผมอาจจะต้องพิกลพิการทุกข์ทลภาพและอาจเสียชีวิตและต้องจากบุคคลอันเป้นที่รักในครอบครัวของผมไปก่อนก็ตาม ผมขอลากลับมาใช้ชีวิตมาเป็นประชาชนธรรมดาติดดิน.แต่ในหัวใจและในจิตวิญญาณอันบริสุทธิของผมทุกลมหายใจของผมยังรุ้สึกห่วงใยในชีวิตความปลอดภัยของพี่น้องทุกๆ ท่านตลอดไปและขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกๆท่าน จงมีสุขภาพแข็งแรง.โรคภัยอย่าได้มี.มีเงิน.มีทอง.มีกินมีใช้ มีความสุข ทุกๆครอบครัวครับ...
วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2561
สตม.เปิดเกมส์รุก เปิดช่องออโต้ รับฮ่องกง บูมท่องเที่ยว
วันที่ 15 ก.ย.2561 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. เป็นประธานในพิธีเปิดช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือ Automatic Channel สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางเขตปกครองพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 ณ บริเวณพื้นที่ตรวจคนเข้าเมืองขาเข้า (Passport Control) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนด้านการท่องเที่ยว ร่วมตัดริบบิ้น เปิดการใช้งานระบบดังกล่าว ท่ามกลางสักขีพยานและสื่อมวลชน
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ฯ กล่าวว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีความยินดีอย่างยิ่ง ให้บุคคลผู้ถือหนังสือเดินทางฮ่องกงใช้งานช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติของไทย ในลักษณะเป็นความร่วมมือทั้งสองฝ่าย (Mutual Use of Automated Immigration Clearance Service) โดยเปิดให้มีการใช้งานอย่างเป็นทางการในวันนี้ เพื่อตอบสนองนโยบาย Thailand 4.0 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนโยบายด้านความมั่นคงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งเน้นการให้บริการด้วยความสะดวก รวดเร็ว ลดปริมาณผู้โดยสารที่เข้าตรวจกับเจ้าหน้าที่ และจะช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกในการตรวจหนังสือเดินทางได้รวดเร็วขึ้น
โดยชาวฮ่องกงกลุ่มแรก เป็นผู้โดยสาร เที่ยวบิน CX717 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 10.50 น. ซึ่งจะได้รับการตรวจเข้าประเทศด้วยเครื่อง Automatic Channel ที่มีขั้นตอนการตรวจที่รวดเร็วกว่าช่องตรวจหนังสือเดินทางปกติ ซึ่งใช้เจ้าหน้าที่ในการคัดกรองเฉลี่ยรายละ 45 วินาที แต่ Automatic Channel จะใช้เวลาเพียงรายละ 20 วินาที ทุ่นเวลารายละประมาณ 15-30 วินาที โดยระบบจะตรวจข้อมูล Barcode ในหน้าหนังสือเดินทาง เก็บข้อมูลเที่ยวบิน จากบัตรที่นั่งโดยสาร เก็บภาพใบหน้า พิสูจน์อัตลักษณ์ด้วย ระบบลายนิ้วมือ หรือ Fingerprint ด้วยตัวเอง และทำงานร่วมกับระบบตรวจสอบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ตรวจสอบผู้โดยสารทันทีที่เช็คอินกับสายการบิน ทำให้ระบบมีความปลอดภัยสูง เชื่อถือได้ เสริมสร้างความมั่นคง ให้กับประเทศ ไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ ผู้ถือหนังสือเดินทางฮ่องกงไม่ต้องเดินเข้าไปรอคิวกับผู้โดยสารอื่นๆในคิวปกติ ซึ่งจะช่วยลดเวลาการตรวจของนักท่องเที่ยว นักลงทุนชาวฮ่องกง และยังช่วยลดปริมาณ การสะสมหนาแน่นของปริมาณผู้โดยสารในช่วงเที่ยวบินหนาแน่นโดยภาพรวมให้คลี่คลายความคับคั่ง ได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ การใช้ช่อง Automatic Channel ในการตรวจหนังสือเดินทาง เป็นที่นิยมและใช้งานในหลายประเทศ โดยเฉพาะสนามบินชั้นนำระดับโลก ที่เปิดให้ชาวต่างชาติ ได้มีโอกาสได้ใช้เพื่อลดความหนาแน่น ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นที่สนามบินหลายแห่ง สำหรับประเทศไทย สตม. ได้เริ่มเปิดดำเนินการครั้งแรกกับผู้โดยสารชาวไทย ซึ่งมีข้อมูลบุคคลในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์และฐานข้อมูลหนังสือเดินทางไทยอยู่แล้ว ต่อมาเมื่อปลายปี 2560 รัฐบาลได้ให้นโยบายจนนำไปสู่ การเริ่มเปิดใช้รองรับการตรวจผู้ถือหนังสือเดินทางสิงคโปร์ จนกระทั่ง พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ฯ ได้เริ่ม ขยายการตรวจรองรับชาวฮ่องกงดังกล่าว และคาดว่าจะขยายไปสู่ด่าน ตม. หลักอื่นๆ รวมถึงคน สัญชาติอื่นๆ ตามนโยบายของทางรัฐบาลที่เร่งพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง ในภูมิภาคในอนาคตอีกด้วย
นอกจากนั้น ในพิธีเปิด พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 ได้ถือโอกาสเปิดตัว ทีม The Seven Angels หรือ 7 นางฟ้า ที่เป็นทีมงานผู้ชำนาญทางภาษาหลักต่างๆ โดยเฉพาะภาษาจีน อาราบิค ฝรั่งเศส สเปน เป็นต้น สำหรับในอนาคต สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะได้พัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางเข้าและออกราชอาณาจักรไทย และระบบ รักษาความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น อาทิ ใบ ตม.6 online, Biometric, SLTD (Interpol) ในอนาคต จะติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ที่สามารถใช้ติดตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบควบคุมอำนวยการที่ทันสมัย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้เดินทางและความมั่นคงปลอดภัยในภูมิภาคสืบต่อไป
.................................................................................
วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561
ปฏิบัติการต่อเนื่อง จร.สน.ชนะสงคราม !!แท็กซี่ปฏิเสธรับผู้โดยสาร ไม่กดมิเตอร์ ไม่มีข้ออ้างใดๆทั้งสิ้น บังคับใช้กฏหมายจริงจัง เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวฯ
เมื่อเวลา14.00น.วันที่12ก.ย.61 ณ.บริเวณด้านหน้า สน.ชนะสงคราม กทมฯ พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผกก.สน.ชนะสงคราม มอบหมายให้ พ.ต.ท.ภูวดล อุ่นโพธิ์ รอง ผกก.จร.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.วรวุฒิ ไชยสมบูรณ์ สว.จร.สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ชนะสงคราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว กวดขันจับกุมผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่ยังไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย ซึ่งในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่6 และที่ผ่านมาก็ยังพบว่ายังมีผู้ขับขี่ที่ยังมีพฤติกรรมที่ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย ซึ่งส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยว ทั้งนี้ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของทาง สน.ชนะสงคราม จะต้องไม่มีผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย อีกทั้งที่ผ่านมาทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ชนะสงคราม ก็ได้ฝากเตือนถึงผู้ขับขี่รถแท็กซี่ถึงในข้อปฏิบัติ ต้องเรียนรู้ในเรื่องของภาษา ต้องศึกษาเส้นทางตามสถานที่ต่างๆที่ชาวต่างชาติจะเดินทางไป แต่งกายตามกฏระเบียบที่ทางขนส่งกำหนดไว้ ฯลฯ และในครั้งนี้จากการปฏิบัติการได้พบผู้กระทำความผิด 8 ราย และหากว่ายังพบว่าผู้ขับขี่เป็นบุคคลเดิมก็จะมีมาตรการที่เข้มงวดและอาจถึงขั้นถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่สาธารณะแท็กซี่ตลอดไป ทาง พ.ต.ท.ภูวดล อุ่นโพธิ์ รอง ผกก.จร.สน.ชนะสงคราม จึงขอฝากเตือนผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ให้รักและซื่อสัตย์ในอาชีพของตนและปฏิบัติตามกฏระเบียบที่กฏหมายกำหนดไว้เท่านี้ก็ถือว่า ได้ช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวในประเทศไทยในมุมมองของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกิดความอุ่นใจ ถ้าจะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย !!
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)