วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2565

นครบาล แถลงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ กรณี

 นครบาล แถลงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ กรณี



วันที่ 31 ม.ค.65 เวลา 11.00 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ,พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. ได้แถลงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรมในภาพรวมของกองบัญชาการตำรวจนครบาลห้วงวันที่ 21 - 30 ม.ค.65 มีรายละเอียด ดังนี้







 1. จับกุมบุคคลตามหมายจับ 340 ราย 328 คน 2. ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดรวมทั้งสิ้น 2.1 ผลิต - ราย - คน 2.2 นำเข้า 4 ราย 4 คน 2.3 ส่งออก - ราย - คน 2.4 จำหน่าย 14 ราย 16 คน 2.5 ครอบครองเพื่อจำหน่าย 25 ราย 25 คน 2.6 ครอบครอง 112 ราย 112 คน 2.7 เสพยาเสพติด 138 ราย 127 คน รวมทั้งสิ้น 293 ราย 284 คน 3. ความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 รวมทั้งสิ้น 3.1 นำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร 2 ราย 2 คน 3.2 ช่วยเหลือซ่อนเร้นคนต่างด้าวให้พ้นจากการจับกุม - ราย - คน 3.3 หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 1524 ราย 1542 คน รวมทั้งสิ้น 1526 ราย 1544 คน 4. ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน 4.1 อาวุธปืนสงคราม 1 ราย 1 คน 4.2 อาวุธปืนธรรมดา (ไม่มีทะเบีบน)








20 ราย 22 คน 4.3 อาวุธปืนธรรมดา (มีทะเบียน) 9 ราย 9 คน 4.4 วัตถุระเบิด 1 ราย 1 คน 4.5 เครื่องกระสุนปืน 5 ราย 4 คน รวมทั้งสิ้น 35 ราย 36 คน 5. ความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง - ราย - คน รวมทั้งสิ้น 2195 ราย 2193 คน พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้เน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งเน้น การป้องกันอาชญากรรม ให้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งทำการ สืบสวน ติดตามจับกุม คนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดีและจะดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครมีความปลอดภัยมากที่สุด 

ตี๋สมเด็จและโจ้บุคคโล/รายงาน

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2565

 



บิ๊กหมอก

 นายศรพงศ์ศักดิ์ สุวรรณปรุง ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการ สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษา บอร์ดบริหาร UNPKFC พร้อมคณะ และนายเทวัญ วรรณะโฆษิต สจ.เขตแหลมงอบ จังหวัดตราด และนางสาว สุภัสสร ปลัดอำเภอแหลมงอบ พร้อมนายสมพร ฤทธิศาสตร์ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยหมู่ 7และชาวบ้านในพื้นทึ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพิพาท ในที่ดินเอกสาร สปก. 4-01 ที่บ้านวังตาสังข์หมู่ 7 ตำบลคลองใหญ่อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ระหว่างนายแฉล้ม สรรพคุณ และนายประสูติ ธัญญากร กับ นางสายสร้อย ไตรย์ปกรณ์ กรณีที่ดิน สปก กลุ่มที่ 1439 แปลงที่ดินเลขที่ 13 เนื้อที่ 12 ไร่ 1 งาน 52 ตารางวา ของนางสายสร้อย กล่าวหานายแฉล้มบุกรุก โดยนายแฉล้มมีที่ดิน สปก.เลขที่ 31 เนื้อที่ 7 ไร่ 2 งาน 68 ตารางวา ที่มีการขุดสระในพื้นที่ติดกันจนเป็นเหตุให้นางสายสร้อยแจ้งความนายแฉล้มข้อหาลักทรัพย์ บุกรุกซึ่งนายศรพงศ์ศักดิ์ ที่ปรึกษาฯได้ไกล่เกลี่ยให้นางสายสร้อยไปถอนแจ้ง ที่ได้แจ้งความกับนายแฉล้มที่ สภ.แหลมงอบเพื่อความเข้าใจและตกลงกันได้ด้วยดี ก่อนจะให้สปก.ตราดลงพื้นที่มาตรวจสอบและได้ใช้เชือกกั้นพื้นที่ ที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกบริเวณสระน้ำ ว่าเป็นที่ดินในครอบครองของใคร ขณะเดียวกัน ก็ตรวจสอบแนวลำธาร ที่นางสายสร้อย ขุดดินเพื่อถมดินจนดินสไลด์ไปถมลำธารให้ตื้นเขินจนชาวบ้านทึ่ใช้ประโยชน์กับแหล่งน้ำนี้มีความเดือดร้อนและยังทำการขุดดินเนินเขาที่ติดกับที่ดินของนายประสูติ ชนัญกร จนทำให้ที่ดินของนายประสูติถล่มเสียหาย จากนั้นได้เดินทางไปต่อเพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐานข้อเท็จจริง ในที่ดินพิพาทดังกล่าว ที่สำนักงาน สปก.ตราด นายอนุพงษ์ โพธิ์ภักดี นิติกรชำนาญการ เข้าร่วมประชุมชี้แจง ว่าการออกเอกสารดังกล่าวเป็นการรังวัดซ่อมตามคำร้องของนางสายสร้อยกับหลักหมุด สปก.ที่หายไป ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการฯและที่ปรึกษา บอร์ดบริหาร UNPKFC กล่าวว่าการปักหลักหมุดใหม่ของสปก.ไม่ตรงกับฉโนด ปักหมุดใหม่ยื่นเข้าไปในพื้นที่ ของเพื่อนบ้าน จึงทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย สปก.ควรปรับปรุงแก้ไขอย่างเร่งด่วนต่อไป











นาย บุญปลูก เอนสาร หัวหน้าพรรคพึ่งตนเอง ต้มไข่แจกชาวบ้าน

 นาย บุญปลูก เอนสาร หัวหน้าพรรคพึ่งตนเอง ต้มไข่แจกชาวบ้าน 



วันที่ 30 มกราคม 2565 

9:00 น.พาทีมงานศึกษาดูงานที่สหกรณ์วัดจันทร์ (สหกรณ์แห่งแรกของประเทศไทย)และแจกไข่ให้กับชาวบ้านที่สหกรณ์ด้วยและเวลา 15.30 น เดินทางกลับโรงแรมเมย์ฟลาวเวอร์ ถ.สนามบิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายบุญปลูก เอนสาร พร้อมกับกลุ่มคนพึ่งตนเอง ได้จัดกิจกรรมต้มไข่ แจกชาวบ้านประท้วงของแพง โดยนายบุญปลูกฯกล่าวในระหว่างต้มไข่และเจียวไข่แจกชาวบ้านว่าประเทศไทยของเราวันนี้เข้าสู่ยุควิกฤตข้าวยากหมากแพงแล้วเพราะของแพงทั้งแผ่นดิน นับว่าเป็นความทุกข์ซ้ำเติมประชาชนที่ย่ำแย่จากพิษโควิดอยู่แล้ว กลับต้องมาเจอปัญหาสินค้าราคาแพงขึ้น35-60% โดยเฉพาะหมูแพงจนซื้อกินไม่ได้วันนี้ที่มาต้มไข่แจกชาวบ้านก็เพียงเพื่ออยากจะบอกว่าจากนี้ไปคนไทยต้องพึ่งตนเองให้มากที่สุด ดังนั้นวันนี้ตนและกลุ่มคนพึ่งตนเอง จึงได้มาร่วมประชุมใหญ่กับพรรคการเมืองที่ทำกันมาแต่เดิม โดยมีมติไปแล้วให้เปลี่ยนชื่อเป็น พรรคพึ่งตนเอง ซึ่งไม่ได้หวังอะไรมากเพียงขอให้คนไทยตระหนักว่าเราต้องพึ่งตนเองตามหลักพุทธวจนที่ว่า อัดตา หิ อัตโนนาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน นั่นแหละดีที่สุดแล้ว ทางด้าน พ.ต.อ. ธีร์รัฐ ทิพย์นพนนท์ เลขาธิการพรรคพึ่งตนเอง ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่าพรรค พึ่งตนเอง









เป็นการนำพักที่มีอยู่เดิมเปลี่ยนชื่อไหม่ เรามีแนวความชัดเจนที่จะทำการเมืองแบบพึ่งตนเองโดยการชวนคนไทยมาพึ่งตนเองในทางการเมืองคือการตัดสินใจ เข้าร่วมพัฒนาการเมืองกับพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์เดียวกันกับตนและพึ่งตนเองโดยอาสาลงสมัครรับเลือกตั้งหรือสนับสนุนผู้ที่มีความรู้ความสามารถเป็นคนดีและซื่อสัตย์สุจริตที่ลงสมัครรับเลือกตั้งพึ่งตนเองในการใช้สิทธิ์เลือกตั้งทุกครั้ง โดยไม่ยอมให้มีการครอบงำและซื้อสินค้าขายเสียง พึ่งตนเองโดยการติดตามตรวจสอบการบริหารจัดการบ้านเมืองของฝ่ายการเมืองด้วยตนเอง พึ่งตนเองโดยการศึกษาหาความรู้ ติดตาม ข้อมูล ข่าวสาร เพื่อให้รู้เท่าทันการเมือง ตลอดเวลา ผมมั่นใจว่าถึงเวลาที่เราต้องปลุกคนไทยให้ลุกขึ้นมาเรียนรู้การเมืองอย่างจริงจัง พึ่งตนเองในทางการเมืองได้แล้ว เลขาธิการพรรคพึ่งตนเอง กล่าว

เอ.คนข่าวรายงาน















การสัมมนายุทธศาสตร์พรรคกิจกรรมทางการเมืองวันนี้โดยมีนาย บุญปลูก เอนสาร หัวหน้าพรรคพึ่งตนเอง

 การสัมมนายุทธศาสตร์พรรคกิจกรรมทางการเมืองวันนี้โดยมีนาย บุญปลูก เอนสาร หัวหน้าพรรคพึ่งตนเอง 





วันที่ 29มกราคม2565 เวลา 07.00 นายบุญปลูก เอนสารหัวหน้าพรรคพึ่งตนเองนายทวีลาภ แสไพศาลที่ปรึกษา หัวหน้าพรรคพึ่งตนเองและกรรมการบริหารพรรคเดินทางสักการะ ศาลหลักเมือง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็นสิริมงคลในการต่อสู้ กับอำนาจเงินพักพึ่งตนเองดำเนินการกิจกรรมทางการเมืองด้วยอุดมการณ์แนวคิดการเสียสละและพึ่งตนเองเป็นแนวทางใหม่ในการในศตวรรษที่ 21 หลังจากนั้นเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชณพระราชวังจันทน์สถานที่พระราชสมภพ ของสมเด็จพระนเรศวรเพื่อสักการะบูชาและขอพร ว่า เราจะขอเป็นลูกหลานสมเด็จพระนเรศวรเพื่อกู้บ้านกู้เมืองจากสิ่งที่เป็นอยู่ในการคอรัปชั่นเราจะทวงคืนทรัพยากรธรรมชาติเพื่อนำเงินเหล่านั้นมาพัฒนาประเทศและ เป็นสวัสดิการให้กับ สังคมทั้งด้านการศึกษาการแพทย์พยาบาลรวมถึงการช่วยเหลือคนด้อยโอกาสต่อไป หลังจากนั้นเวลา 9:00 น ได้มีการเปิดประชุมกรรมการบริหารพรรคณโรงแรมเมย์ฟลาวเวอร์อำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลกเพื่อร่วมกันกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์พรรคพึ่งตนเองเป็นการนำแนวคิดของแต่ละคนมาหลอมรวมจิตใจกันเพื่อนำพาการนโยบายพรรคสู่การเมืองแบบใหม่ที่เรียกว่าการเมืองสีขาว โดยเน้นหลักการเสียสละ ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียงจะต่อสู้กับอำนาจเงินในยุคศตวรรษที่ 21 








การเมืองจะเปลี่ยนไปด้วยแนวคิดการพึ่งตนเองเป็นที่ตั้ง จากนั้น ดร.กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลล์ ประธาน ยุทธศาสตร์พรรคพึ่งตนเองได้ดำเนินการจัดสัมมนาในหัวข้อการ ความรู้ การเตรียมการจัด ตั้งพักประกอบด้วยกฎหมาย พรรคการเมือง ให้กับสมาชิกและกรรมการบริหารพรรคทุกคนได้ มี ความรู้ในการทำหน้าที่ บริหารพรรคพึ่งตนเองต่อไป โดยมี น.อ.(พ) อมรธรรมวัฒน์ ไชยเสวกวิ (ผู้การวินัย) ได้เป็นวิทยากากรในหัวข้อ หลักภาวะผู้นำ ทางการเมือง ให้เรากรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคพึ่งตนเองเป็นคนดีมีความรู้มีอุดมการณ์มุ่งมั่น ผู้นำนั้นต้องเป็นคนดีมีความรู้ทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมประเทศชาติได้สิ่งสำคัญต้องมีความซื่อสัตย์มีคุณธรรมต้องนึกถึงผู้อื่นและส่วนรวมเป็นที่ตั้งทุกคนมีความ หลากหลายใน สหวิชาชีพสาขามารวมกันอยู่ในพรรคพึ่งตนเอง ซึ่งนักการเมืองต้องตัดสินใจภายใต้สาขาสหวิชาการเป็นนักการเมืองจะใช้ทฤษฎีเดี๋ยวไม่ได้ ต้องใช้หลายๆแนวคิดทฤษฎีหลากหลายอาชีพหลายสาขามาร่วมกันทำงานให้ตรงเป้าหมายอย่างเช่นหัวหน้าพรรคได้กล่าวไว้ว่า put the right Man on the right Job ใช้คนให้ตรงกับงาน 
















หลังจากการอบรมสัมมนา ทางคณะ ได้เดินทางไปนมัสการหลวงพ่อพระพุทธชินราชพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวพิษณุโลกซึ่งถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในโลก เพื่อเป็นกำลังใจกับคณะทำงานของพรรคพึ่งตนเองได้สักการะและกล่าวนำแนวคิดเกี่ยวกับการทำงานของพรรคพึ่งตนเองต่อหน้าหลวงพ่อพุทธชินราชเพื่อเป็นพยานในการทำงานการเมืองสีขาวต่อไป เอคน/ข่าวรายงาน