วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563

ประชาชนคลองหลวง หอบหลักฐานขอคำชี้แจง ท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนหลายเรื่องให้เอาผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แต่เรื่องเงียบ !!



ตามเรื่องที่เคยร้องเรียนให้เอาผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนหลายเรื่องให้เอาผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แต่เรื่องที่ร้องเรียนก็ยังเงียบอยู่ หรือยังไม่ดำเนินการใดๆ ทำให้ยังไม่ทราบผลในเรื่องร้องเรียนต่างๆ ทั้งที่เวลาก็ผ่านมาเนิ่นนาน วันนี้ 29 เมษายน พ.ศ.2563 นายณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) พร้อมทีมงานก็หอบหอบหลักฐานเอกสารไปศาลากลางจังหวัดปทุมธานี เพื่อขอเข้าพบดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และ ทกจ.ปทุมธานี เพื่อตามเรื่องที่เคยร้องเรียนให้เอาผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในหลายๆ เรื่องด้วยกัน โดยมีผู้สื่อข่าวหลายสำนัก รวมทั้งช่อง 13 สยามไทยมาร่วมทำข่าว เพื่อหาความกระจ่างในเรื่องร้องเรียนต่างๆ นายณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) ได้หอบหลักฐานเอกสารต่างๆ พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้มาติดตามผล พร้อมทั้งขอความกระจ่างในเรื่องที่เคยร้องเรียนให้เอาผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนั้น มีทั้งหมด 7 เรื่องด้วยกัน คือ

 เรื่องที่ 1. เป็นเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายวิทยา เยาวละออง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีไม่ส่งผลการพิจารณาสอบสวนทางวินัยนางสุดา ทองวิลัย ตามคำสั่งเทศบาลเมืองคลองหลวงที่ 287/2562 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เรื่องที่ 2. คือเรื่องขอให้สั่งพักราชการ หรือให้ออกจากงานก่อน ของพนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวงจำนวน 13 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาที่ศาลประทับรับฟ้องแล้ว (เรื่องประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวงฟ้องกลับ) เพื่อรอผลการพิจารณาคดีอาญา เมื่อเจ้าหน้าที่เทศบาลทั้งหมด 13 คน ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ทั้งหมดต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ตนจึงมายื่นหนังสือเพื่อขอให้สั่งพักราชการเจ้าหน้าที่เทศบาลทั้ง 13 คน หรือให้ออกจากงานไว้ก่อน 





เรื่องที่ 3. คือเรื่องขอให้ดำเนินการทางวินัยกับนายฉัตรชฎา สมสะอาด กรณีนำรถหลวงที่ทางจังหวัดยืมมาจาก อบจ.ปทุมธานี ไปใช้ส่วนตัว จนเกิดอุบัติเหตุ แล้วนำรถคันดังกล่าวไปซ่อมเอง โดยไม่บอกต้นสังกัดทราบ เรื่องนี้ถูกร้องเรียนมาตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ทราบมาว่ามีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไปแล้ว แต่ไม่มีการเรียกสอบผู้ร้อง และพยานที่มายกรถ รวมทั้งพยานอู่ซ่อมรถ ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ยังเงียบอยู่ ไม่ทราบผลของการพิจารณา

 เรื่องที่ 4. เป็นเรื่องขอให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัย นายฉัตรชฎา สมสะอาด กรณีเรียกรับผลประโยชน์ และเปิดเผยเอกสารทางราชการ ซึ่งเรื่องนี้สามารถดำเนินการทางวินัยได้ทันที โดยไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเนื่องจากมีพยานหลักฐานและพยาน ซึ่งตามมาตรฐานเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัย และการดำเนินการทางวินัย ข้อ 20 วรรค 4 ข้อ 22 วรรค 3 และหนังสือสำนักงาน ก.อบต ก.ท. และ ก.จ. ที่มท. 0808.2/195 ลงวันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2561สามารถดำเนินการทางวินัยได้ทันที ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง

เรื่องที่ 5. คือเรื่องขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน คณะกรรมการสอบสวน 6 คน กรณีไม่ส่งผลการพิจารณาสอบสวนทางวินัยนางสุดา ทองวิลัย ตามคำสั่งเทศบาลเมืองคลองหลวง ที่ 287 และ 288/ 2562 วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เพราะว่า ถ้ามีการส่งผลการสอบสวน ท้องถิ่นจังหวัดจะไม่ให้สัมภาษณ์ว่า เรียก ผอ.วิทยา เยาวละออง เข้ามาให้การเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวอีกครั้งตามคลิปสัมภาษณ์วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2563 และตามระเบียบแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องเดิมที่เคยตั้งกรรมการสอบสวนแล้วได้



เรื่องที่ 6. เป็นเรื่องขอให้ระงับโครงการกล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองคลองหลวง ที่ราคาแพงเกินจริงกว่า 2.5 เท่า ตามที่ได้เคยส่งเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการระงับโครงการดังกล่าว และยังมีความพยายามดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไป ด้วยการเชิญผู้ประกอบการเข้ามาพรีเซ้นต์ที่เทศบาลเมืองคลองหลวง จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจเข้าควบคุมเทศบาลตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 ส่วนที่ ท.6 มาตรา 72 เพื่อเข้ามาควบคุมเทศบาล และระงับโครงการกล้องวงจรปิดดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดผลเสีย และใช้งบประมาณเกินความเป็นจริง

เรื่องที่ 7. คือเรื่องขอให้สั่งพักงานหรือให้ออกจากก่อนของข้าราชการและพนักงานเทศบาลจำนวน 16 คน ที่ตกเป็นผูต้องหาในคดีอาญาที่ศาลประทับรับฟ้องแล้ว ในกรณีออกคำสั่งโดยมิชอบที่ไม่รับปลัดเทศบาลคนใหม่ ที่ปลัดจุฑารัตน์ขอใช้อำนาจนายกฯ ในการรับปลัดเทศบาล เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 และมีการพิจารณาอีกครั้งในการประชุม กทจ.ปทุมธานี เพื่อรอผลการพิจารณาคดีอาญา 11/2562

นอกจากการติดตามการร้องเรียน 7 เรื่องดังกล่าวแล้ว นายณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) ยังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมอีกว่า เพิ่งได้รับข่าวจากกรมเจ้าท่าในกรณีเททับถมคูคลองแล้วยึดเป็นที่ส่วนตัวจำนวนมาก จนทำให้ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อน เพราะเวลาฝนตกน้ำไหลไม่สะดวก จนกลายเป็นน้ำท่วมขัง และกรมเจ้าท่าแจ้งว่าพื้นที่ดังกล่าว ได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นที่ของกรมเจ้าท่า ไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัว ซึ่งเรื่องนี้ได้ดำเนินการฟ้องร้องกันมานานหลายปีแล้ว แต่เรื่องก็ยังเงียบอยู่ และพื้นที่ดังกล่าวมีชื่อดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีรวมอยู่ด้วย จึงอยากจะมาสอบถามดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีในเรื่องพื้นที่ดังกล่าวด้วย

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2563



เมื่อวันที่19เมษายน2563เวลา13:00น.ที่บ้านใหม่ ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยนายประดิษฐ์ ค่อมพันธ์ บรรณาธิการ นิตยสาร โปลิศ นิวส์ อัพเดท พลัส พ.ต.อ.พัฒนา สงวนศักดิ์ ผกก.สส.จ.นนทบุรี พร้อมทีมงานผู้สื่อและชมรม NP.TEAM และร้านอาหารซุ้มไผ่​ (คุณอุ้ม​ คุณยาย​ น้องเต้)​ ตัวแทนรอง เจ้าอาวาส วัดบัวแก้ว (คุณแดง)ร่วมกันแจกข้าวสาร,อาหารแห้งแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสCOVID-19 จึงได้เล็งเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ผู้มีรายได้น้อยและได้รับผลกระทบจากการปิดสถานประกอบการ ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส"โคโรน่า"(COVID-19)จึงได้ดำเนินการเข้าช่วยเหลือความเดือดร้อน จำนวน150ครัวเรือน (ทุกคนที่เข้ารับของแจก จะต้องผ่านจุดคัดกรองเท่านั้น)











วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563




เมื่อวันที่15/04/63เวลา11.00 น.หน้าปาก ซ.เจริญนคร 25. (วัดเศวตฉัตร)นำโดย ป๋าชู วัดเศวต. พระเดชพระคุณท่านพระครูธีระธรรมนันท์ เจ้าอาวาสวัดบางแวก  เจ้าคณะแขวงบางแวก ชมรมช่วยเหลือผู้ยากไร้. ร่วมกับ บอล เชิญยิ้ม,โรเบริต์ สายควัน,น้าค่อม ชวนชื่น, บริษัทฮาไม่จำกัด คุณหนุ่ม​ สวนยี่สิบ​ ประธานชมรมช่วยเหลือผู้ยากไร้​ นายบัญชา​ ปานนิวัฒน์​ (ป๋าชู​ วัดเศวต)​ พร้อมรองประธานชมรมช่วยเหลือผู้ยากไร้์รองเต้กัลยา​ ทนายบุรินทร์​ สมันตรัฐ​ คุณ​ นฤทธิ์ชัย​ แสงกระจ่าง​ ชนนพัฒฐ์  นาคสั้ว (กฤต  สงขลา)   พร้อมด้วย ทีมงานรองเต้  ทีมงานทนายกล๊อฟ และเพื่อนๆๆพี่ๆๆน้องๆๆ. ได้แจกอาหารฟรี แด่ผู้มีรายได้น้อย มีข้าวหมูทอดไข่ดาว,บะหมีหมูแดงไข่,หอยทอด,ขนมหวาน600ถ้วย,และน้ำส้ม,ชาอิชิตัน,น้ำเปล่า  รวม2,000กว่าชุด. จะแจกทุกวันพุทธและอาทิตย์ ขอให้ผู้ที่มีรายได้น้อยมารับของแจกได้ทุกวันพุทธและอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นคนขับรถแท็กซี่,วินมอเตอร์ไซ,คนขับสามล้อ,และชาวบ้านทั่วไป
(ตี๋สมเด็จรายงาน)

























วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563

ปปท. ติดตามการจัดซื้อจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวง ที่ส่อแววทุจริตราคาสูงกว่า 3 เท่าตัว แต่ไม่สามารถแจ้งรายละเอียดอะไรได้เลย





ปปท. ติดตามการจัดซื้อจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวง
ที่ส่อแววทุจริตราคาสูงกว่า 3 เท่าตัว แต่ไม่สามารถแจ้งรายละเอียดอะไรได้เลย

  • จากกรณีที่คุณณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) ได้ทำเรื่องร้องเรียนไปที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ  (ปปท.) เขต 1 จ.อยุธยา เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่ส่อแววทุจริต ราคาเกินกว่าความเป็นจริง จากการประเมินการจัดซื้อราคาจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV เพียง 10 ล้านบาท แต่ราคาที่จัดซื้อจัดจ้างกล้องงวงจรปิด CCTV มีราคาถึง 25 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าตลาดทั่วไป 15 ล้านบาท หรือประมาณเกือบ 3 เท่าตัว ซึ่งส่อให้เห็นถึงการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV ในครั้งนี้






มาวันนี้ วันที่ 10 เมษายน 2563 ประมาณเวลา 10.00 น. ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ  (ปปท.) เขต 1 ได้เดินทางมาร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อจัดจ้างกล้องงวงจรปิด CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี ในครั้งนี้ เพื่อหาข้อเท็จจริงเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างกล้องงวงจรปิด CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่ราคาเกินกว่าความเป็นจริง จากการประเมินการจัดซื้อราคาจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV เพียง 10 ล้านบาท แต่ราคาที่จัดซื้อจัดจ้างงกล้องวงจรปิด CCTV มีราคาถึง 25 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าตลาดทั่วไป 15 ล้านบาท ที่เทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมีนายสุวิรัตน์  กิมสวัสดิ์ ประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวง คุณณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) ผู้ร้องเรียน และสื่อมวลชนหลายสำนัก รวมทั้งช่อง 13 สยามไทยที่ติดตามข่าวนี้มาตั้งแต่มีการร้องเรียน มาร่วมสังเกตการณ์และติดตามผลสรุปข้อเท็จจริงต่างๆ ของการประชุมในครั้งนี้ แต่ไม่วามารถเข้าไปในห้องประชุมได้ โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นการประชุมลับ ประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวง คุณณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) ผู้ร้องเรียน และผู้สื่อข่าวหลายสำนักก็ได้ยืนรออยู่หน้าห้องประชุมเพื่อสังเกตการณ์และรอสัมภาษณ์ในเรื่องผลสรุปของการประชุม แต่คุณณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) ผู้ร้องเรียนจะขอเข้าไปสังเกตการณ์ในห้องแต่ก็ไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าไป จึงรออยู่ที่หน้าห้องประชุมเหมือนเดิม ขณะที่ผู้ร้องเรียนและผู้สื่อข่าวรออยู่หน้าห้องประชุม ก็มีเจ้าหน้าที่นิติกรของเทศบาลเมืองคลองหลวงได้ออกมาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร เหมือนกับการไล่ คือไม่อนุญาตให้ยืนหน้าห้องประชุม โดยอ้างว่าเป็นการกดดันผู้เข้าร่วมประชุม ถามจริงๆ ครับว่า มันกดดันตรงไหน ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายหรือยุ่งกับการประชุมสักนิด ถ้าโปร่งใสจริงก็ไม่น่าจะกดดันอะไรเลย และทางเจ้าหน้าที่นิติกรแจ้งว่าถ้าไม่ไปจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเทศกิจมาจัดการ จึงทำให้ผู้ร้องเรียนเกิดมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่นิติกรท่านนั้น หลังจากนั้นรักษาการนายกเทศบาลเมืองคลองหลวงจึงได้ให้เจ้าหน้าที่เทศกิจมาเชิญตัวผู้ร้องเรียนและผู้สื่อข่าวเข้ามาอยู่ในห้องรับรองไม่ให้เข้าไปวุ่นวายและบันทึกภาพการประชุม การประชุมหารือหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวจึงดำเนินต่อไป



หลังจากนั้นนายเจษฎา นาคปนทอง ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีสาระสนเทศ ซึ่งเป็นสถาบันที่ตรวจสอบเอกสารประกาศประกวดราคาและรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี โครงการเลขที่ ๖๒๐๒๗๑๘๕๑๓๕ เอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ เลขที่ ๒๗/๒๕๖๓ ในครั้งนี้ ได้เดินทางมาพร้อมเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับกล้อง CCTV รุ่นดังกล่าว จากการสอบถามของผู้สื่อข่าวกับนายเจษฎา นาคปนทอง ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีสาระสนเทศ จึงทราบว่า เอกสารดังกล่าวที่ตรวจสอบมีความขัดแย้งกันในหลายๆ เรื่อง อย่างเช่น มีผู้ยื่นซองประกวดราคามากกว่า 10 รายขึ้นไป ทำไมมีผู้ยื่นประกวดราคาพียง 2 รายเท่านั้นสเปคและราคาที่ทางผู้ร้องเรียนแจ้งว่าการประเมินการจัดซื้อราคาจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV เพียง 10 ล้านบาท แต่ราคาที่จัดซื้อจัดจ้างงกล้องวงจรปิด CCTV มีราคาถึง 25 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าตลาดทั่วไป 15 ล้านบาท หรือราคาเกินกว่าที่ท้องตลาดประมาณ 3 เท่าตัว รวมทั้งอุปกรณ์บางตัวมันต้องมากับระบบ แต่มีการเสนอซื้อซ้ำซ้อน ซึ่งเอกสารทั้งหมดที่แสดงถึงความผิดปกติหลายอย่างของโครงการ ทางนายเจษฎา นาคปนทอง ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีสาระสนเทศ ก็ได้นำเอกสารดังกล่าวมาเพื่อชี้แจงและให้ราบละเอียดข้อมูลต่างๆ กับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ  (ปปท.) เขต 1 รวมทั้งสอบถามรายละเอียดกับทางผู้เข้าร่วมประชุมที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ที่สงสัยของโครงการดังกล่าว แต่ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ  (ปปท.) เขต 1 แจ้งว่าเป็นการประชุมภายใน  ไม่ให้เข้าไปร่วมประชุมด้วย และแจ้งว่าเป็นการประชุมยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ ส่วนการจะยื่นเอกสารรายละเอียดนั้นให้ไปยื่นได้ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ  (ปปท.) เขต 1 จ.อยุธยา โดยตรง จนเวลา 12.00 น. การประชุม เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ  (ปปท.) เขต 1 รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองคลองหลวงที่เข้าประชุมทั้งหมดก็ได้ออกจากห้องประชุมอย่างรวดเร็วและไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับทางสื่อมวลชน
การติดตามการจัดซื้อจัดจ้างกล้องวงจรปิด CCTV ของเทศบาลเมืองคลองหลวงที่ส่อแววทุจริตของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ  (ปปท.) เขต 1 จ.อยุธยา ในครั้งนี้ จึงไม่สามารถแจ้งรายละเอียดอะไรได้เลย เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางผู้สื่อข่าวก็ต้องติดตามเรื่องผลการร้องเรียนนี้กันต่อไปว่าผลจะเป็นอย่างไร