ตามเรื่องที่เคยร้องเรียนให้เอาผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนหลายเรื่องให้เอาผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
แต่เรื่องที่ร้องเรียนก็ยังเงียบอยู่ หรือยังไม่ดำเนินการใดๆ
ทำให้ยังไม่ทราบผลในเรื่องร้องเรียนต่างๆ ทั้งที่เวลาก็ผ่านมาเนิ่นนาน วันนี้ 29 เมษายน พ.ศ.2563 นายณัฐธีร์
พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง)
พร้อมทีมงานก็หอบหอบหลักฐานเอกสารไปศาลากลางจังหวัดปทุมธานี เพื่อขอเข้าพบดร.พินิจ
บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และ ทกจ.ปทุมธานี
เพื่อตามเรื่องที่เคยร้องเรียนให้เอาผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในหลายๆ
เรื่องด้วยกัน โดยมีผู้สื่อข่าวหลายสำนัก รวมทั้งช่อง 13 สยามไทยมาร่วมทำข่าว
เพื่อหาความกระจ่างในเรื่องร้องเรียนต่างๆ นายณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง)
ได้หอบหลักฐานเอกสารต่างๆ พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้มาติดตามผล
พร้อมทั้งขอความกระจ่างในเรื่องที่เคยร้องเรียนให้เอาผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนั้น
มีทั้งหมด 7 เรื่องด้วยกัน คือ
เรื่องที่ 1. เป็นเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายวิทยา เยาวละออง
ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีไม่ส่งผลการพิจารณาสอบสวนทางวินัยนางสุดา ทองวิลัย
ตามคำสั่งเทศบาลเมืองคลองหลวงที่ 287/2562 ลงวันที่ 28
พฤษภาคม พ.ศ. 2562
เรื่องที่ 2. คือเรื่องขอให้สั่งพักราชการ หรือให้ออกจากงานก่อน
ของพนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวงจำนวน 13 คน
ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาที่ศาลประทับรับฟ้องแล้ว
(เรื่องประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวงฟ้องกลับ) เพื่อรอผลการพิจารณาคดีอาญา
เมื่อเจ้าหน้าที่เทศบาลทั้งหมด 13 คน ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว
ทั้งหมดต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ตนจึงมายื่นหนังสือเพื่อขอให้สั่งพักราชการเจ้าหน้าที่เทศบาลทั้ง
13 คน หรือให้ออกจากงานไว้ก่อน
เรื่องที่ 3. คือเรื่องขอให้ดำเนินการทางวินัยกับนายฉัตรชฎา
สมสะอาด กรณีนำรถหลวงที่ทางจังหวัดยืมมาจาก อบจ.ปทุมธานี ไปใช้ส่วนตัว
จนเกิดอุบัติเหตุ แล้วนำรถคันดังกล่าวไปซ่อมเอง โดยไม่บอกต้นสังกัดทราบ
เรื่องนี้ถูกร้องเรียนมาตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562
ทราบมาว่ามีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไปแล้ว
แต่ไม่มีการเรียกสอบผู้ร้อง และพยานที่มายกรถ รวมทั้งพยานอู่ซ่อมรถ
ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ยังเงียบอยู่ ไม่ทราบผลของการพิจารณา
เรื่องที่ 4. เป็นเรื่องขอให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัย นายฉัตรชฎา สมสะอาด
กรณีเรียกรับผลประโยชน์ และเปิดเผยเอกสารทางราชการ
ซึ่งเรื่องนี้สามารถดำเนินการทางวินัยได้ทันที
โดยไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเนื่องจากมีพยานหลักฐานและพยาน
ซึ่งตามมาตรฐานเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัย และการดำเนินการทางวินัย ข้อ 20
วรรค 4 ข้อ 22 วรรค 3
และหนังสือสำนักงาน ก.อบต ก.ท. และ ก.จ. ที่มท. 0808.2/ว 195 ลงวันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2561สามารถดำเนินการทางวินัยได้ทันที
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง
เรื่องที่ 5. คือเรื่องขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน
คณะกรรมการสอบสวน 6 คน
กรณีไม่ส่งผลการพิจารณาสอบสวนทางวินัยนางสุดา ทองวิลัย
ตามคำสั่งเทศบาลเมืองคลองหลวง ที่ 287 และ 288/ 2562 วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เพราะว่า
ถ้ามีการส่งผลการสอบสวน ท้องถิ่นจังหวัดจะไม่ให้สัมภาษณ์ว่า เรียก ผอ.วิทยา
เยาวละออง
เข้ามาให้การเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวอีกครั้งตามคลิปสัมภาษณ์วันที่ 23
มีนาคม พ.ศ. 2563 และตามระเบียบแล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องเดิมที่เคยตั้งกรรมการสอบสวนแล้วได้
เรื่องที่ 6. เป็นเรื่องขอให้ระงับโครงการกล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองคลองหลวง
ที่ราคาแพงเกินจริงกว่า 2.5 เท่า
ตามที่ได้เคยส่งเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้ว
แต่ปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการระงับโครงการดังกล่าว
และยังมีความพยายามดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไป ด้วยการเชิญผู้ประกอบการเข้ามาพรีเซ้นต์ที่เทศบาลเมืองคลองหลวง
จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจเข้าควบคุมเทศบาลตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496
ส่วนที่ ท.6 มาตรา 72 เพื่อเข้ามาควบคุมเทศบาล
และระงับโครงการกล้องวงจรปิดดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดผลเสีย
และใช้งบประมาณเกินความเป็นจริง
เรื่องที่ 7. คือเรื่องขอให้สั่งพักงานหรือให้ออกจากก่อนของข้าราชการและพนักงานเทศบาลจำนวน
16 คน ที่ตกเป็นผูต้องหาในคดีอาญาที่ศาลประทับรับฟ้องแล้ว
ในกรณีออกคำสั่งโดยมิชอบที่ไม่รับปลัดเทศบาลคนใหม่
ที่ปลัดจุฑารัตน์ขอใช้อำนาจนายกฯ ในการรับปลัดเทศบาล เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 และมีการพิจารณาอีกครั้งในการประชุม
กทจ.ปทุมธานี เพื่อรอผลการพิจารณาคดีอาญา 11/2562
นอกจากการติดตามการร้องเรียน 7 เรื่องดังกล่าวแล้ว นายณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์
(คุณหนึ่ง) ยังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมอีกว่า เพิ่งได้รับข่าวจากกรมเจ้าท่าในกรณีเททับถมคูคลองแล้วยึดเป็นที่ส่วนตัวจำนวนมาก
จนทำให้ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อน เพราะเวลาฝนตกน้ำไหลไม่สะดวก
จนกลายเป็นน้ำท่วมขัง และกรมเจ้าท่าแจ้งว่าพื้นที่ดังกล่าว
ได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นที่ของกรมเจ้าท่า ไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัว ซึ่งเรื่องนี้ได้ดำเนินการฟ้องร้องกันมานานหลายปีแล้ว
แต่เรื่องก็ยังเงียบอยู่ และพื้นที่ดังกล่าวมีชื่อดร.พินิจ บุญเลิศ
ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีรวมอยู่ด้วย จึงอยากจะมาสอบถามดร.พินิจ บุญเลิศ
ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีในเรื่องพื้นที่ดังกล่าวด้วย