สุรินทร์ - วันนี้ 30 พ.ย.61 เวลา 09.00 น. พ.ต.อ.สุจริต ปาณเล็ก รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ และ พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการดำเนินการ โครงการประชุม ประชาคมชุมชนหมู่บ้าน ต่อต้านยาเสพติด และแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามแนวทาง "โครงการแก้ปัญหายาเสพติดในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน และกองทุนแม่ของแผ่นดิน ณ หอประชุมโรงเรียนสุรวิทยาคาร ต.ในเมือง อ.เมือง จว.สุรินทร์ โดยมีนายพรพจน์ บัณฑิตยานุรักษ์ รอง ผวจ.สุรินทร์ เป็นประธานฯ มีผู้มาร่วมให้ความสนใจ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่เป็นปัญหาในสังคมทุกวันนี้จนกว่าจะสิ้นไป..../ ทีมประชาเสรี
วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
สุรินทร์ - วันนี้ 30 พ.ย.61 เวลา 09.00 น. พ.ต.อ.สุจริต ปาณเล็ก รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ และ พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการดำเนินการ โครงการประชุม ประชาคมชุมชนหมู่บ้าน ต่อต้านยาเสพติด และแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามแนวทาง "โครงการแก้ปัญหายาเสพติดในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน และกองทุนแม่ของแผ่นดิน ณ หอประชุมโรงเรียนสุรวิทยาคาร ต.ในเมือง อ.เมือง จว.สุรินทร์ โดยมีนายพรพจน์ บัณฑิตยานุรักษ์ รอง ผวจ.สุรินทร์ เป็นประธานฯ มีผู้มาร่วมให้ความสนใจ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่เป็นปัญหาในสังคมทุกวันนี้จนกว่าจะสิ้นไป..../ ทีมประชาเสรี
ราชบุรี/เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เทศบาลตำบลกระจับอำเภอบ้านโป่งจังหวัดราชบุรี นายสมศักดิ์ ตันเจริญ ปลัดเทศบาลตำบลกระจับพร้อมผู้บริหาร.เจ้าหน้าที่ จัด กิจกรรมจิตอาสา”เราทำความดีด้วยหัวใจ” พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณซอยเทศบาลกระจับ 4/2 ชุมชนหนองตะแคงสร้างสรรค์ ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ในการนี้ได้มอบเงินให้กับผู้สูงวัยพร้อมอาหารแห้งให้กับนางแวว ผู้สูงอายุยากไร้ อาศัยภายในซอยชุมชน เพื่อช่วยเหลือ และสร้างกำลังใจให้สู้ชีวิตต่อไป
สุนิสา.ภาพ/สุพจน์ วรสหวัฒน์จ.ราชบุรีรายงาน
จ.ราชบุรี//กรมทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ พร้อมด้วย เทศบาลตำบลเขางู อ.เมือง จ.ราชบุรี จัดกิจกรรม "เราทำดีด้วยหัวใจ"เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ ร.9และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร. 10.
ที่บริเวณคลองหนองใหญ่ หมู่ 8 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี พ.อ.สมศักดิ์ พิมพ์เลิศ ผู้บังคับการกรมทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ เป็นประธาน ในกิจกรรมโครงการ"เราทำความดีด้วยหัวใจ" โดยมี ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารเทศบาลตำบลเขางูจ.ราชบุรี และ ประชาชน พร้อมใจกัน จัดกิจกรรมมีการพัฒนาคูคลองหนองบึงที่มีวัชพืชกีดกั้นขวางทางน้ำให้สะอาดเรียบร้อย พร้อมทั้งปล่อยพันธุ์ปลา ได้แก่ปลานิล ปลาตะเพียน จำนวน 200,000 ตัวลงในคลองที่พัฒนาทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร เนื่องในวันที่ 5 ธันวาคม 2561 และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร.
ที่บริเวณคลองหนองใหญ่ หมู่ 8 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี พ.อ.สมศักดิ์ พิมพ์เลิศ ผู้บังคับการกรมทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ เป็นประธาน ในกิจกรรมโครงการ"เราทำความดีด้วยหัวใจ" โดยมี ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารเทศบาลตำบลเขางูจ.ราชบุรี และ ประชาชน พร้อมใจกัน จัดกิจกรรมมีการพัฒนาคูคลองหนองบึงที่มีวัชพืชกีดกั้นขวางทางน้ำให้สะอาดเรียบร้อย พร้อมทั้งปล่อยพันธุ์ปลา ได้แก่ปลานิล ปลาตะเพียน จำนวน 200,000 ตัวลงในคลองที่พัฒนาทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร เนื่องในวันที่ 5 ธันวาคม 2561 และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร.
สุพจน์ วรสหวัฒน์จ.ราชบุรี/รายงาน
พล.ต.ต.ประสพโชค เป็นประธานประชุมคณะกรรมการวิสามัญ และคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางการพัฒนาให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอัจฉริยะ (SMART CITY)
ในวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 19 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) พล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการพัฒนาให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการพัฒนาให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยมี คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางการพัฒนาให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ทั้ง 3 ชุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของกรุงเทพมหานคร ผู้แทนภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้หัวข้อในที่ประชุมได้หารือในประเด็น Model พระราม 4 วิถีเมือง โดยมีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แผนยุทธศาสตร์สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวและสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาของกรุงเทพมหานคร ร่วมแสดงความคิดเห็น
ในวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 19 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) พล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการพัฒนาให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการพัฒนาให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยมี คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางการพัฒนาให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ทั้ง 3 ชุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของกรุงเทพมหานคร ผู้แทนภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้หัวข้อในที่ประชุมได้หารือในประเด็น Model พระราม 4 วิถีเมือง โดยมีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แผนยุทธศาสตร์สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวและสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาของกรุงเทพมหานคร ร่วมแสดงความคิดเห็น
โดยมีคณะกรรมการที่เข้าร่วมประชุมแสดงความเห็นว่า การพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็น Smart city น่าจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรศึกษาว่าพื้นที่แต่ละเขตมีจุดเด่นด้านใด แล้วจึงหารือผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนาให้เป็น Smart City ในมิติที่เกี่ยวข้องของพื้นที่เขตนั้น ๆ ต่อไป
วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
สุรินทร์ - วันนี้ 29 พ.ย.2561 ที่ว่าการอำเภอเมืองสุรินทร์ แน่นขนัดไปด้วยประชาชนผู้มาติดต่อเช็คข้อมูลลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ลงทะเบียนปี61 ที่ตกหล่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่เช็คข้อมูลให้โดย นายภูวิศ อังศุชวาลวรรณ ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบโครงการ และเจ้าหน้าที่อำเภอฝ่ายรับผิดชอบร่วมช่วยบริการอำนวยความสะดวกให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย วันนี้ถือว่าเป็นสุดท้าย หลังจากที่บริการมาหลายวันตามที่ได้แจ้งประกาศไป ทั้งนี้ ประชาชนได้ตื่นตัวในการขอรับสิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามนโยบายรัฐบาล ที่ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่คนจน แม้จะมีปัญหาหลายคนที่ยังไม่เข้าใจในระบบ ผ่านหรือไม่ผ่าน ทางเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชน/หมู่บ้าน ในฐานะคณะกรรมการ AO ก็ช่วยกันอธิบายให้เข้าใจเป็นรายกรณี ถึงปัญหาที่ผ่านหรือไม่ผ่าน ทำให้เกิดความเข้าใจเป็นอย่างดีพร้อมขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีต่อไป...
"ตำรวจจราจร!!โครงการพระราชดำริ
แก้ไขปัญหาจราจรแบบบูรณาการ
ประสานพัฒนาเทคโนโลยีให้นำสมัย!!
กองบังคับการตำรวจจราจร
บูรณาการกำลังร่วมกับกรุงเทพมหานคร , สำนักเทศกิจ และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ระดมจับกุมรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า
ด้วยปัจจุบันมีประชาชนจำนวนมากได้ร้องเรียนผ่าน เพจเฟสบุ๊ค “นิธิธร จินตกานนท์” และร้องเรียนจาก 1197 กรณีรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า และขับขี่ย้อนศร กองบังคับการตำรวจจราจร จึงได้บูรณาการกำลังร่วมกับกรุงเทพมหานคร , สำนักเทศกิจ และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันจับกุมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า และขับขี่ย้อนศร บริเวณเขตพื้นที่ห้วยขวางและดินแดง เพื่อมาดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย และเกิดความปลอดภัย อีกทั้งเป็นการยืดอายุในการใช้ทางเท้า สำหรับประชาชนและผู้พิการ
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2561 เวลาประมาณ 16.00-18.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.,
นำโดย พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร., พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง, พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก.5 บก.จร., พ.ต.ท.เจษฎา ยางนอก รอง ผกก.2 บก.จร., พ.ต.ต.คริษฐ์ ปริยะเกตุ สว.งานสายตรวจ1 กก.1 บก.จร., พ.ต.ต.วรสุวัฒน์ ทวีรัชตโภคิน ปรท.สว.งานสายตรวจ1 กก.1 บก.จร.ร่วมกับ นายจิรวัฒน์ แพงมา ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ , นายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการกองนิติการและบังคับคดี , นายวัตรฤทธิ์ ทองธัญวีรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนตรวจและบังคับการ 2 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.จร. , บก.ทท.และ สน.ห้วยขวาง ร่วมกันจับกุมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า บริเวณหน้าห้างฟอจูนเขตพื้นที่ห้วยขวางและดินแดง
ผลการจับกุมดังนี้
- รถจอดเขตห้าม 15 ราย ปรับ 3 ราย
- ย้อนทาง 3 ราย ปรับ 1 ราย
- บนทางเท้า 7 ราย ปรับ - ราย
- ไม่สวมหมวก 3 ราย ปรับ 3 ราย
- จอดบนทางเท้า 1 ราย ปรับ 1 ราย
รวมจับกุม 29 ราย ปรับ 8 ราย
โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ที่ถูกจับกุมจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 17, 56 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (7) , 157 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สี่ร้อยบาทถึงหนึ่งพันบาท ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศร อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 41 , 148 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
แก้ไขปัญหาจราจรแบบบูรณาการ
ประสานพัฒนาเทคโนโลยีให้นำสมัย!!
กองบังคับการตำรวจจราจร
บูรณาการกำลังร่วมกับกรุงเทพมหานคร , สำนักเทศกิจ และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ระดมจับกุมรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า
ด้วยปัจจุบันมีประชาชนจำนวนมากได้ร้องเรียนผ่าน เพจเฟสบุ๊ค “นิธิธร จินตกานนท์” และร้องเรียนจาก 1197 กรณีรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า และขับขี่ย้อนศร กองบังคับการตำรวจจราจร จึงได้บูรณาการกำลังร่วมกับกรุงเทพมหานคร , สำนักเทศกิจ และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันจับกุมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า และขับขี่ย้อนศร บริเวณเขตพื้นที่ห้วยขวางและดินแดง เพื่อมาดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย และเกิดความปลอดภัย อีกทั้งเป็นการยืดอายุในการใช้ทางเท้า สำหรับประชาชนและผู้พิการ
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2561 เวลาประมาณ 16.00-18.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.,
นำโดย พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร., พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง, พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก.5 บก.จร., พ.ต.ท.เจษฎา ยางนอก รอง ผกก.2 บก.จร., พ.ต.ต.คริษฐ์ ปริยะเกตุ สว.งานสายตรวจ1 กก.1 บก.จร., พ.ต.ต.วรสุวัฒน์ ทวีรัชตโภคิน ปรท.สว.งานสายตรวจ1 กก.1 บก.จร.ร่วมกับ นายจิรวัฒน์ แพงมา ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ , นายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการกองนิติการและบังคับคดี , นายวัตรฤทธิ์ ทองธัญวีรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนตรวจและบังคับการ 2 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.จร. , บก.ทท.และ สน.ห้วยขวาง ร่วมกันจับกุมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า บริเวณหน้าห้างฟอจูนเขตพื้นที่ห้วยขวางและดินแดง
ผลการจับกุมดังนี้
- รถจอดเขตห้าม 15 ราย ปรับ 3 ราย
- ย้อนทาง 3 ราย ปรับ 1 ราย
- บนทางเท้า 7 ราย ปรับ - ราย
- ไม่สวมหมวก 3 ราย ปรับ 3 ราย
- จอดบนทางเท้า 1 ราย ปรับ 1 ราย
รวมจับกุม 29 ราย ปรับ 8 ราย
โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ที่ถูกจับกุมจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 17, 56 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (7) , 157 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สี่ร้อยบาทถึงหนึ่งพันบาท ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศร อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 41 , 148 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
อนึ่ง กองบังคับการตำรวจจราจรจะได้ดำเนินการกวดขันจับกุมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า และขับขี่ย้อนศร อย่างต่อเนื่องต่อไป!!
วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
ราชบุรี/นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอบ้านโป่งนายวัลลภ เจียรวนนท์ประธานคณะกรรมการดำเนินงานนายสารกิจ ถวิลประวัติ รองประธานคณะกรรมการนายนภินทร ศรีสรรพางค์ คณะกรรมการแถลงข่าวงานมหกรรมสัตว์เลี้ยงแห่งประเทศไทยครั้งที่14 ตลาดปลาสวยงามอำเภอบ้านโป่งจังหวัดราชบุรีจะจัดขึ้นในวันที่ 14ถึง16 ธันวาคม 2561
นายวัลลภ เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานมหกรรมสัตว์เลี้ยงแห่งประเทศไทยกล่าวว่าจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องครั้งนี้เป็นครั้งที่14แล้วโดยได้รับความร่วมมือระหว่างเครือเจริญโภคภัณฑ์.ภาครัฐ.เอกชน.สถานศึกษา.รวมทั้งสมาคม.ชมรมสัตว์เลี้ยงต่างๆกว่า50องค์กรซึ้งในปีนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพวรางกูรพระราชทานสุนัขหลวงทรงเลี้ยงมาแสดงความสามารถภายในงานจำนวน6สุนัขได้แก่คุณแกงเขียวหวาน.คุณเบอร์หนึ่ง.คุณเบอร์สอง.คุณเบอร์สาม.คุณป่าสัก.และคุณวัง.ร่วมแสดงความสามารถทั้ง3วันและมีสัตว์เลี้ยงชนิดต่างๆเข้ารวมประกวดได้แก่สุนัข.แมว.ปลาสวยงาม.นกสวยงาม.นกพิราบแข่ง.ไก่แจ้.ไก่สวยงามเป็นต้น
นายวัลลภ เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานมหกรรมสัตว์เลี้ยงแห่งประเทศไทยกล่าวว่าจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องครั้งนี้เป็นครั้งที่14แล้วโดยได้รับความร่วมมือระหว่างเครือเจริญโภคภัณฑ์.ภาครัฐ.เอกชน.สถานศึกษา.รวมทั้งสมาคม.ชมรมสัตว์เลี้ยงต่างๆกว่า50องค์กรซึ้งในปีนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพวรางกูรพระราชทานสุนัขหลวงทรงเลี้ยงมาแสดงความสามารถภายในงานจำนวน6สุนัขได้แก่คุณแกงเขียวหวาน.คุณเบอร์หนึ่ง.คุณเบอร์สอง.คุณเบอร์สาม.คุณป่าสัก.และคุณวัง.ร่วมแสดงความสามารถทั้ง3วันและมีสัตว์เลี้ยงชนิดต่างๆเข้ารวมประกวดได้แก่สุนัข.แมว.ปลาสวยงาม.นกสวยงาม.นกพิราบแข่ง.ไก่แจ้.ไก่สวยงามเป็นต้น
สุพจน์ วรสหวัฒน์จ.ราชบุรี/รายงาน
พิธีมอบคืนโฉนดที่ดินและทรัพย์สิน
คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม
ณ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ ตำรวจภูธรภาค 1 ครั้งที่ 4
วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น.
...........................................................................................
ตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดและส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติการณ์ให้ประชาชนกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และทำสัญญาเอารัดเอาเปรียบยึดที่ดินของประชาชน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคำสั่ง ตร. ที่ 466/2561 ลงวันที่ 10 ส.ค.2561 จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) เพื่อควบคุม สั่งการ เร่งรัด ตรวจสอบ ติดตามการดำเนินคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชนและคดีอาญาอื่นที่เป็นนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. , พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1/ผอ.ศปฉช.ภ.1 , พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1/รอง ผอ.ศปฉช. ภ.1 , พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบช.ภ.1 ควบคุมกำกับชุดปฏิบัติการ สั่งการให้ตำรวจภูธรทั้ง 9 จังหวัด และกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมกลุ่มนายทุนปล่อยดอกเบี้ยโหดและยึดที่ดินชาวบ้าน จากการปฏิบัติงานได้ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการถูกเอารัดเอาเปรียบเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดและถูกยึดโฉนดที่ดินและทรัพย์สินอื่นๆ นำเข้าสู่มาตรการเจรจาไกล่เกลี่ย สามารถนำโฉนดที่ดินและทรัพย์สินอื่นๆ คืนให้กับประชาชน ดังนี้
- 2 -
1. ผู้ต้องหา
1.1 จับกุม 42 ราย 46 คน
1.2 ของกลาง 79 รายการ มูลค่า 3,514,429 บาท
2. ไกลเกลี่ย
2.1 ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 346 ราย
2.2 อยู่ระหว่างไกล่เกลี่ย 7 ราย
3. ทรัพย์สินที่คืนให้ประชาชน
3.1 โฉนดที่ดิน 290 ฉบับ มูลค่า 184,933,600 บาท
เนื้อที่รวม 633 ไร่ 1 งาน 58 ตารางวา
3.2 รถยนต์ 10 คัน มูลค่า 2,050,000 บาท
3.3 รถจักรยานยนต์ 27 คน มูลค่า 639,000 บาท
3.4 บัตร ATM 3 ใบ มูลค่า 38,000 บาท
3.5 สมุดเงินฝากธนาคาร 1 เล่ม มูลค่า 10,000 บาท
3.6 สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ 6 เล่ม มูลค่า 235,000 บาท
3.7 ไกล่เกลี่ยปรับสัญญาหนี้ 20 ราย มูลค่า 5,944,600 บาท
รวมมูลค่า 193,850,200 บาท
รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 197,364,629 บาท
4. บก.สส.ภ.1 ได้ทำการตรวจยึดโฉนดที่ดินและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ดังนี้
4.1 โฉนดที่ดิน ในเขตพื้นที่ จว.สระบุรี จำนวน 2,175 ฉบับ
4.2 โฉนดที่ดิน ในเขตพื้นที่ จว.ชัยนาท จำนวน 3 ฉบับ
รวมโฉนดที่ดินที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบทั้งสิ้น 2,178 ฉบับ
ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 1 ได้บูรณาการกำลังร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง ภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือจากประชาชน และตำรวจภูธรภาค 1 จะได้ดำเนินการตรวจสอบ ตรวจค้น จับกุม อย่างต่อเนื่อง ต่อไป เพื่อให้นโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บรรลุวัตถุประสงค์สูงสุด
คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม
ณ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ ตำรวจภูธรภาค 1 ครั้งที่ 4
วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น.
...........................................................................................
ตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดและส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติการณ์ให้ประชาชนกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และทำสัญญาเอารัดเอาเปรียบยึดที่ดินของประชาชน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคำสั่ง ตร. ที่ 466/2561 ลงวันที่ 10 ส.ค.2561 จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) เพื่อควบคุม สั่งการ เร่งรัด ตรวจสอบ ติดตามการดำเนินคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชนและคดีอาญาอื่นที่เป็นนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. , พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1/ผอ.ศปฉช.ภ.1 , พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1/รอง ผอ.ศปฉช. ภ.1 , พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบช.ภ.1 ควบคุมกำกับชุดปฏิบัติการ สั่งการให้ตำรวจภูธรทั้ง 9 จังหวัด และกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมกลุ่มนายทุนปล่อยดอกเบี้ยโหดและยึดที่ดินชาวบ้าน จากการปฏิบัติงานได้ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการถูกเอารัดเอาเปรียบเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดและถูกยึดโฉนดที่ดินและทรัพย์สินอื่นๆ นำเข้าสู่มาตรการเจรจาไกล่เกลี่ย สามารถนำโฉนดที่ดินและทรัพย์สินอื่นๆ คืนให้กับประชาชน ดังนี้
- 2 -
1. ผู้ต้องหา
1.1 จับกุม 42 ราย 46 คน
1.2 ของกลาง 79 รายการ มูลค่า 3,514,429 บาท
2. ไกลเกลี่ย
2.1 ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 346 ราย
2.2 อยู่ระหว่างไกล่เกลี่ย 7 ราย
3. ทรัพย์สินที่คืนให้ประชาชน
3.1 โฉนดที่ดิน 290 ฉบับ มูลค่า 184,933,600 บาท
เนื้อที่รวม 633 ไร่ 1 งาน 58 ตารางวา
3.2 รถยนต์ 10 คัน มูลค่า 2,050,000 บาท
3.3 รถจักรยานยนต์ 27 คน มูลค่า 639,000 บาท
3.4 บัตร ATM 3 ใบ มูลค่า 38,000 บาท
3.5 สมุดเงินฝากธนาคาร 1 เล่ม มูลค่า 10,000 บาท
3.6 สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ 6 เล่ม มูลค่า 235,000 บาท
3.7 ไกล่เกลี่ยปรับสัญญาหนี้ 20 ราย มูลค่า 5,944,600 บาท
รวมมูลค่า 193,850,200 บาท
รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 197,364,629 บาท
4. บก.สส.ภ.1 ได้ทำการตรวจยึดโฉนดที่ดินและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ดังนี้
4.1 โฉนดที่ดิน ในเขตพื้นที่ จว.สระบุรี จำนวน 2,175 ฉบับ
4.2 โฉนดที่ดิน ในเขตพื้นที่ จว.ชัยนาท จำนวน 3 ฉบับ
รวมโฉนดที่ดินที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบทั้งสิ้น 2,178 ฉบับ
ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 1 ได้บูรณาการกำลังร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง ภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือจากประชาชน และตำรวจภูธรภาค 1 จะได้ดำเนินการตรวจสอบ ตรวจค้น จับกุม อย่างต่อเนื่อง ต่อไป เพื่อให้นโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บรรลุวัตถุประสงค์สูงสุด
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)