วันนี้ 31 ส.ค.61 ที่ห้องประชุมเอราวัณ ภ.1พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1/เอราวัณ 3 เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตามคำสั่ง ภ.1 ที่ 234/2561 ลงวันที่ 2 ส.ค.61 เพิ่มเติมโดยคำสั่ง ภ.1 ที่ 242/2561 ลงวันที่ 8 ส.ค.61 ครั้งที่ 3/2561”โดยมีพ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ภักดีณรงค์รองผบก.วน.ปฏิบัติราชการ ภ.1พร้อมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำสั่งดังกล่าวเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกันโดยในที่ประชุมได้มีการพิจารณาในเรื่องความคืบหน้าจากการประชุมในครั้งที่ 2/2561 พร้อมแนวทางในการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไปและปัญหาข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไขโดยเน้นย้ำในการสืบสวนข้อเท็จจริงให้ดำเนินการตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 โดยเคร่งครัด และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561
น.ส.พ.ประชาเสรีออนไลน์// เดะโอ๋!!ประชุมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำสั่ง ภ.1 ที่ 234/2561
เดอะโอ๋!!! ประชุมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำสั่ง ภ.1 ที่ 234/2561
น.ส.พ.ประชาเสรีออนไลน//IWIND แจง ก.ล.ต. ตลาดทุนเหตุสอบผู้บริหารจัดซื้อผิดระเบียบ ลงนามเพียงผู้เดียว!
I WIND แจงก.ล.ต.-ตลาดทุน เหตุสอบผู้บริหารจัดซื้อผิดระเบียบ ลงนามเพียงผู้เดียว
“หมอวิชัย” – “ศุภนันท์” ยื่นหนังสือ ก.ล.ต. -ตลท. และ IFEC ชี้แจงเหตุตั้งกรรมการสอบผู้บริหาร I WIND หลังพบความผิดปกติเรื่องการบริหารหนี้จนผิดนัดชำระธนาคารและลูกหนี้ รวมถึงการลงนามจัดซื้อเพียงคนเดียวซึ่งผิดกฎบริษัท
วันที่ 31 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นายแพทย์ วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ และ นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ ในฐานะกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ( I WIND) ส่งทนายความยื่นหนังสือถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเฟค(IFEC) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่งของบริษัท I WIND โดยระบุว่า ตรวจพบความผิดปกติในการบริหารงาน 4 ประเด็น
ประกอบด้วย 1.การจัดซื้อ จัดจ้างโดยไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยกฎระเบียบบริษัท มีการปกปิดข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญ เช่น เรื่อง การจัดซื้อแบตเตอรี่ โดยมีการลงนามในสัญญาจากผู้บริหารคนดังกล่าวเพียงคนเดียว ขัดต่ออำนาจกรรมการที่ลงนามผูกพันแทนบริษัทได้ซึ่งระเบียบบริษัทกำหนดให้ต้องมีกรรมการลงลายมือชื่อ 2 คน รวมทั้งยังตรวจพบอีกว่าเป็นการขออนุมัติการจัดซื้อย้อนหลังจากที่ผู้บริหารคนดังกล่าวลงนามไปแล้วด้วย
ประการที่ 2.ผู้บริหารคนเดียวกันไม่ลงนามในการชำระเงินประกันค่าก่อสร้างที่ค้างจ่าย จำนวนร้อยละ 10 ของค่าจ้างเป็นเหตุให้บริษัทและคณะกรรมการอาจถูกดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา 3.การมีปัญหาในการจัดจ้างบริษัทคู่สัญญาในการดำเนินการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ( EIA) และ4.ถูกธนาคารและเจ้าหนี้ ส่งหนังสือทวงถามการชำระหนี้และการผิดเงื่อนไขหลายประการ
“จากความผิดปกติดังกล่าว คณะกรรมการจึงมีมติให้ปรับย้ายตำแหน่งของผู้บริหารรายนี้ไปเป็นที่ปรึกษาของกรรมการบริษัทเป็นการชั่วคราวเพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที พร้อมทั้งเห็นควรว่าต้องเปิดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ ไม่ให้เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการต่อไป”นายวิชัย กล่าว
“หมอวิชัย” – “ศุภนันท์” ยื่นหนังสือ ก.ล.ต. -ตลท. และ IFEC ชี้แจงเหตุตั้งกรรมการสอบผู้บริหาร I WIND หลังพบความผิดปกติเรื่องการบริหารหนี้จนผิดนัดชำระธนาคารและลูกหนี้ รวมถึงการลงนามจัดซื้อเพียงคนเดียวซึ่งผิดกฎบริษัท
วันที่ 31 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นายแพทย์ วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ และ นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ ในฐานะกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ( I WIND) ส่งทนายความยื่นหนังสือถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเฟค(IFEC) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่งของบริษัท I WIND โดยระบุว่า ตรวจพบความผิดปกติในการบริหารงาน 4 ประเด็น
ประกอบด้วย 1.การจัดซื้อ จัดจ้างโดยไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยกฎระเบียบบริษัท มีการปกปิดข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญ เช่น เรื่อง การจัดซื้อแบตเตอรี่ โดยมีการลงนามในสัญญาจากผู้บริหารคนดังกล่าวเพียงคนเดียว ขัดต่ออำนาจกรรมการที่ลงนามผูกพันแทนบริษัทได้ซึ่งระเบียบบริษัทกำหนดให้ต้องมีกรรมการลงลายมือชื่อ 2 คน รวมทั้งยังตรวจพบอีกว่าเป็นการขออนุมัติการจัดซื้อย้อนหลังจากที่ผู้บริหารคนดังกล่าวลงนามไปแล้วด้วย
ประการที่ 2.ผู้บริหารคนเดียวกันไม่ลงนามในการชำระเงินประกันค่าก่อสร้างที่ค้างจ่าย จำนวนร้อยละ 10 ของค่าจ้างเป็นเหตุให้บริษัทและคณะกรรมการอาจถูกดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา 3.การมีปัญหาในการจัดจ้างบริษัทคู่สัญญาในการดำเนินการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ( EIA) และ4.ถูกธนาคารและเจ้าหนี้ ส่งหนังสือทวงถามการชำระหนี้และการผิดเงื่อนไขหลายประการ
“จากความผิดปกติดังกล่าว คณะกรรมการจึงมีมติให้ปรับย้ายตำแหน่งของผู้บริหารรายนี้ไปเป็นที่ปรึกษาของกรรมการบริษัทเป็นการชั่วคราวเพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที พร้อมทั้งเห็นควรว่าต้องเปิดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ ไม่ให้เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการต่อไป”นายวิชัย กล่าว
นายศุภนันท์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ยังเป็นกรรมการบริษัท อำนาจกรรมการในการลงนามของบริษัทต้องใช้กรรมการลงลายมือชื่อจำนวน 2 ใน 3 คนมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการโดยกำหนดให้ผู้บริหารI WIND คนดังกล่าวเป็นตัวยืนในการลงลายมือชื่อร่วมกับกรรมการอีกหนึ่งคน ทั้งที่ผู้บริหารคนดังกล่าวถือหุ้นน้อยกว่าบริษัท IFEC ฉะนั้นเพื่อความเป็นธรรมและการรักษาผลประโยชน์อันสูงสุดของบริษัท ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นสำคัญ../
วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2561
น.ส.พ.ประชาเสรีออนไลน์//รณรงค์คนไทยต้องทำนาไว้กินเอง..
รณรงค์คนไทยต้องทำนาไว้กินเอง..
นายเกรียงไกร พิณทอง เลขาธิการสมาพันธ์จิตอาสาชาวใต้ ประธานโครงการบ้านสวนหลักชัย นายสมปอง งาเนียม สมาชิก อบต.หลักชัยพร้อมกับชาวบ้าน ต.หลักชัยร่วมให้การต้อนรับ คุณเรืองศักดิ์ แสงเพ็ญพราว ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดนนทบุรี ดร.พรชัย สาเมือง เลขาธิการหอการค้าจังหวัดนนทบุรีพร้อมสมาชิก คุณเอ็นดู ซื่อวจี ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ. นนทบุรี และคณะกรรมการสโมสรโรตารี บางกรวย นำโดยนายกก่อตั้งคุณประดิษฐ์ อ่อนรักษ์
นายเกรียงไกร พิณทอง เลขาธิการสมาพันธ์จิตอาสาชาวใต้ ประธานโครงการบ้านสวนหลักชัย นายสมปอง งาเนียม สมาชิก อบต.หลักชัยพร้อมกับชาวบ้าน ต.หลักชัยร่วมให้การต้อนรับ คุณเรืองศักดิ์ แสงเพ็ญพราว ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดนนทบุรี ดร.พรชัย สาเมือง เลขาธิการหอการค้าจังหวัดนนทบุรีพร้อมสมาชิก คุณเอ็นดู ซื่อวจี ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ. นนทบุรี และคณะกรรมการสโมสรโรตารี บางกรวย นำโดยนายกก่อตั้งคุณประดิษฐ์ อ่อนรักษ์
ในโอกาสเยี่ยมชมแปลงนาสาธิต ที่สมาพันธ์จิตอาสาชาวใต้ รณรงค์ให้คนในสังคมเมือง เยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้การทำนา ปลอดสารเคมี ไว้รับประทานเอง ซึ่งได้ความอนุเคราะห์จากคณะอาจารย์มูลนิธิชัยพัฒนามาสอนให้ความรู้ร่วมกับชาวบ้าน ในโครงการศูนย์เรียนรู้ ลดต้นทุน เพื่อเกษตร ต.หลักชัย อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2561
น.ส.พ.ประชาเสรีออนไลน์//ตามที่สื่อมวนชนได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับที่มีคนร้ายตระเวนลักทรัพย์โดยใช้สุนัขเบี่ยงเบน ความสนใจของผู้เสียหายซึ่งเหตุเกิดในหลายพื้นที่เกี่ยวเนี่องกัน
เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2561 เวลา 16.00 น. ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับที่มีคนร้ายตระเวนลักทรัพย์โดยใช้สุนัขเบี่ยงเบน ความสนใจของผู้เสียหาย ซึ่งเหตุเกิดในหลายท้องที่เกี่ยวเนื่องกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 โดย มอบหมายให้ พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบช.ภ.1 ได้เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายในคดีให้ได้ โดยเร็ว
บก.สส.ภ.1 โดย พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.วสันต์ เตชะอัครเกษม, พ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์, พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบก.สส.ภ.๑, พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เคทอง ผกก.ปพ.บก.สส. ภ.๑, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.สส.๑ บก.สส.ภ.๑, พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1
ภ.จว.ปทุมธานี โดย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี
ภ.จว.นนทบุรี โดย พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี
ได้ร่วมกันจับกุมตัว
1.นายอภิชาติ บุญเรือง อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 222 / 150 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร หมายจับศาลจังหวัดปทุมธานีที่ จ.170/2561 ลงวันที่ 20 ส.ค. 2561 กระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทาผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
2. น.ส.อุษา เกษมณี หรือนางฑิญาตา บุญเรือง อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 222 / 150
แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร หมายจับศาลจังหวัดปทุมธานีที่ จ.170/2561 ลงวันที่ 20
ส.ค. 2561 กระทาความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทาผิดหรือ
พาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
พฤติการณ์ของคนร้ายในคดีได้รับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุ 2 คน โดยใช้รถยนต์เป็น
พาหนะในการก่อเหตุ ที่ผ่านมาได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามร้านค้ามาแล้วกว่า 15 ปี โดยทรัพย์สินที่ได้
จากการก่อเหตุทั้งหมดได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ในการซื้อทรัพย์สิน รถยนต์ บ้าน และที่ดิน และนำเงิน
บางส่วนไปเล่นการพนัน การก่อเหตุแต่ละครั้งใช้อุบายทำทีเป็นลูกค้าเข้ามาชวนพูดคุยตีสนิทกับเจ้าของร้าน
แล้วทำเป็นสั่งซื้อของจำนวนมาก รวมถึงการอุ้มหมา อุ้มเด็ก และบางครั้งถือร่มเพื่อหลบ
กล้อง เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ จากนั้นฉวยโอกาสขณะเหยื่อจัดเตรียมสินค้าและไม่ได้เฝ้าระวังทรัพย์สิน
ของตนเอง ทั้งสองคนก็จะลักทรัพย์แล้วหลบหนีไป โดยคนร้ายเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในท้องที่ต่างๆ ถือ
เป็นภัยคุกคามต่อความ ปลอดภัยในทรัพย์สินและมีผลกระทบต่อการประกอบอาชีพสุจริตของประชาชน
การกระทำความผิดของผู้ต้องหาทั้งสองดังกล่าว เป็นการลักทรัพย์แบบปกติธุระ นอกจากนี้
พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องในการสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดนำทรัพย์สินของคนร้ายที่ได้จากการกระทำ
ความผิดไปเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินของตนเองจำนวนหลายรายการ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งจะ
ได้ดำเนินการต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติคดีอาญาของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พบว่าเคยถูกออกหมายจับไว้แล้ว
ดังนี้
1. นายอภิชาติ บุญเรือง มีหมายจับจานวน 17 หมาย ดังนี้ จังหวัดปทุมธานี สภ.สามโคก
1 หมาย สภ.ปากคลองรังสิต 1 หมาย จังหวัดนนทบุรี สภ.บางบัวทอง 5 หมาย สภ.ปากเกร็ด 1 หมาย สภ.
บางใหญ่ 1 หมาย สภ.ปลายบาง 1 หมาย จังหวัดสมุทปราการ สภ.เมืองสมุทรปราการ 1 หมาย จังหวัด
พระนครศรีอยุธยา สภ.พระนครศรีอยุธยา 1 หมาย สภ.บางประอิน 2 หมาย สภ.เสนา 1 หมาย และในส่วน
ของ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กับ ตำรวจภูธรภาค 2 อีกหน่วยละ 1 หมาย
2. น.ส.อุษา เกษมณี หรือนางฑิญาตา บุญเรืองง มีหมายจับจานวน 12 หมาย ดังนี้
จังหวัดปทุมธานี สภ.สามโคก 1 หมาย สภ.ปากคลองรังสิต 1 หมาย จังหวัดนนทบุรี สภ.บางบัวทอง 3
หมาย สภ.ปากเกร็ด 1 หมาย จังหวัดสมุทปราการ สภ.เมืองสมุทรปราการ 1 หมาย จังหวัด
พระนครศรีอยุธยา สภ.พระนครศรีอยุธยา 1 หมาย สภ.บางประอิน 1 หมาย สภ.เสนา 1 หมาย และในส่วน
ของ กองบัญชาการตำรวจนครบาลอีก 2 หมาย
และอยู่ระหว่าง...
และอยู่ระหว่างดาเนินคดีในอีกหลายพื้นที่ดังนี้
- กองบัญชาการตารวจนครบาล คือ สน.สามเสน สน.โคกคราม สน.สายไหม สน.บางชัน สน.นิมิตใหม่ สน.ประชาชื่น สน.ดอนเมือง สน.หลักสอง สน.บางขุนเทียน สน.ทุ่งสองห้อง สน.พหลโยธิน และสน.ตลิ่งชัน รวม 22 คดี
- ตารวจภูธรภาค 7 คือ สภ.เมืองนครปฐม สภ.พุทธมณฑล สภ.นครชัยศรี สภ.บางเลน สภ.โพธิ์แก้ว และ สภ.เมืองกาญจนบุรี รวม 5 คดี
- ตารวจภูธรภาค 2 คือ สภ.เมืองระยอง และ สภ.องครักษ์ รวม 2 คดี
ผลการตรวจค้นบ้านพักพบของกลางอีกจำนวน 82 รายการ ตามเอกสารแนบ มีรายการ สำคัญดังนี้
1. รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมรา สีดำ ติดป้ายทะเบียน แดง ศ-4430 กรงเทพมหานคร
2. รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว เลขทะเบียน 1กฆ-5515 กรุงเทพมหานคร
3. รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซิลฟี สีขาว เลขทะเบียน 5กถ-2052 กรุงเทพมหานคร และเลขทะเบียน ขน 552 ชลบุรี
บก.สส.ภ.1 โดย พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.วสันต์ เตชะอัครเกษม, พ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์, พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบก.สส.ภ.๑, พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เคทอง ผกก.ปพ.บก.สส. ภ.๑, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.สส.๑ บก.สส.ภ.๑, พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1
ภ.จว.ปทุมธานี โดย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี
ภ.จว.นนทบุรี โดย พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี
ได้ร่วมกันจับกุมตัว
1.นายอภิชาติ บุญเรือง อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 222 / 150 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร หมายจับศาลจังหวัดปทุมธานีที่ จ.170/2561 ลงวันที่ 20 ส.ค. 2561 กระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทาผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
2. น.ส.อุษา เกษมณี หรือนางฑิญาตา บุญเรือง อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 222 / 150
แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร หมายจับศาลจังหวัดปทุมธานีที่ จ.170/2561 ลงวันที่ 20
ส.ค. 2561 กระทาความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทาผิดหรือ
พาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
พฤติการณ์ของคนร้ายในคดีได้รับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุ 2 คน โดยใช้รถยนต์เป็น
พาหนะในการก่อเหตุ ที่ผ่านมาได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามร้านค้ามาแล้วกว่า 15 ปี โดยทรัพย์สินที่ได้
จากการก่อเหตุทั้งหมดได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ในการซื้อทรัพย์สิน รถยนต์ บ้าน และที่ดิน และนำเงิน
บางส่วนไปเล่นการพนัน การก่อเหตุแต่ละครั้งใช้อุบายทำทีเป็นลูกค้าเข้ามาชวนพูดคุยตีสนิทกับเจ้าของร้าน
แล้วทำเป็นสั่งซื้อของจำนวนมาก รวมถึงการอุ้มหมา อุ้มเด็ก และบางครั้งถือร่มเพื่อหลบ
กล้อง เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ จากนั้นฉวยโอกาสขณะเหยื่อจัดเตรียมสินค้าและไม่ได้เฝ้าระวังทรัพย์สิน
ของตนเอง ทั้งสองคนก็จะลักทรัพย์แล้วหลบหนีไป โดยคนร้ายเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในท้องที่ต่างๆ ถือ
เป็นภัยคุกคามต่อความ ปลอดภัยในทรัพย์สินและมีผลกระทบต่อการประกอบอาชีพสุจริตของประชาชน
การกระทำความผิดของผู้ต้องหาทั้งสองดังกล่าว เป็นการลักทรัพย์แบบปกติธุระ นอกจากนี้
พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องในการสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดนำทรัพย์สินของคนร้ายที่ได้จากการกระทำ
ความผิดไปเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินของตนเองจำนวนหลายรายการ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งจะ
ได้ดำเนินการต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติคดีอาญาของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พบว่าเคยถูกออกหมายจับไว้แล้ว
ดังนี้
1. นายอภิชาติ บุญเรือง มีหมายจับจานวน 17 หมาย ดังนี้ จังหวัดปทุมธานี สภ.สามโคก
1 หมาย สภ.ปากคลองรังสิต 1 หมาย จังหวัดนนทบุรี สภ.บางบัวทอง 5 หมาย สภ.ปากเกร็ด 1 หมาย สภ.
บางใหญ่ 1 หมาย สภ.ปลายบาง 1 หมาย จังหวัดสมุทปราการ สภ.เมืองสมุทรปราการ 1 หมาย จังหวัด
พระนครศรีอยุธยา สภ.พระนครศรีอยุธยา 1 หมาย สภ.บางประอิน 2 หมาย สภ.เสนา 1 หมาย และในส่วน
ของ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กับ ตำรวจภูธรภาค 2 อีกหน่วยละ 1 หมาย
2. น.ส.อุษา เกษมณี หรือนางฑิญาตา บุญเรืองง มีหมายจับจานวน 12 หมาย ดังนี้
จังหวัดปทุมธานี สภ.สามโคก 1 หมาย สภ.ปากคลองรังสิต 1 หมาย จังหวัดนนทบุรี สภ.บางบัวทอง 3
หมาย สภ.ปากเกร็ด 1 หมาย จังหวัดสมุทปราการ สภ.เมืองสมุทรปราการ 1 หมาย จังหวัด
พระนครศรีอยุธยา สภ.พระนครศรีอยุธยา 1 หมาย สภ.บางประอิน 1 หมาย สภ.เสนา 1 หมาย และในส่วน
ของ กองบัญชาการตำรวจนครบาลอีก 2 หมาย
และอยู่ระหว่าง...
และอยู่ระหว่างดาเนินคดีในอีกหลายพื้นที่ดังนี้
- กองบัญชาการตารวจนครบาล คือ สน.สามเสน สน.โคกคราม สน.สายไหม สน.บางชัน สน.นิมิตใหม่ สน.ประชาชื่น สน.ดอนเมือง สน.หลักสอง สน.บางขุนเทียน สน.ทุ่งสองห้อง สน.พหลโยธิน และสน.ตลิ่งชัน รวม 22 คดี
- ตารวจภูธรภาค 7 คือ สภ.เมืองนครปฐม สภ.พุทธมณฑล สภ.นครชัยศรี สภ.บางเลน สภ.โพธิ์แก้ว และ สภ.เมืองกาญจนบุรี รวม 5 คดี
- ตารวจภูธรภาค 2 คือ สภ.เมืองระยอง และ สภ.องครักษ์ รวม 2 คดี
ผลการตรวจค้นบ้านพักพบของกลางอีกจำนวน 82 รายการ ตามเอกสารแนบ มีรายการ สำคัญดังนี้
1. รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมรา สีดำ ติดป้ายทะเบียน แดง ศ-4430 กรงเทพมหานคร
2. รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว เลขทะเบียน 1กฆ-5515 กรุงเทพมหานคร
3. รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซิลฟี สีขาว เลขทะเบียน 5กถ-2052 กรุงเทพมหานคร และเลขทะเบียน ขน 552 ชลบุรี
4. รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีบรอนทอง เลขทะเบียน ษจ 8432 กรุงเทพมหานคร
วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561
น.ส.พ.ประชาเสรีออนไลน์//รายย่อย IFEC ร้องก.ล.ต.อายัดหุ้นรายใหญ่ซื้อขายผิดกม.และจัดการตามแนวศาล
รายย่อยIFEC ร้องก.ล.ต.อายัดหุ้นรายใหญ่ซื้อขายผิดกม.-จัดการตามแนวศาล
ผู้ถือหุ้นรายย่อย IFEC ยื่นหนังสือถึงก.ล.ต.ทวงถามความคืบหน้าจัดการผู้ถือหุ้นรายใหญ่ซื้อขายหุ้นผิดกฎหมาย หวังยึดกิจการIFEC แบบผิดกฎหมาย โดยขอให้อายัดหุ้นไว้ตรวจสอบก่อน และเร่งดำเนินการตามแนวทางของศาลอาญาที่ได้ประทับรับฟ้องคดีครอบงำกิจการไว้แล้ว
วันที่ 28 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก ผู้ถือหุ้นบริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเฟค(IFEC) เข้ายื่นหนังสือถึง เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ทวงถามความคืบหน้าข้อร้องเรียนที่เคยร้องมาหลายครั้งแล้ว เพื่อขอให้ก.ล.ต.ดำเนินการกับผู้ถือหุ้นใหญ่IFECคนหนึ่ง หลังพบพฤติกรรมกรรมที่เข้าข่ายการกระทำผิดร่วมกับอดีตผู้บริหารIFECบางคน ในการได้มาซึ่งหุ้นของIFECแบบผิดกฎหมายเข้าข่ายการครอบงำ(ยึด)กิจการ
ซึ่งในหนังสือทวงถามความคืบหน้าที่ส่งถึงก.ล.ต.ระบุว่าได้รับทราบข้อมูลจากบริษัทIFEC ว่า อดีตผู้บริหารIFEC 2 คนได้นำหุ้นไปขายต่อแก่ผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าวจำนวน 30 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5.10 บาท คิดเป็นเงิน 153 ล้านบาท โดยมีข้อตกลงว่าอดีตผู้บริหารIFECคนแรกจะซื้อหุ้นคืนในราคา 6 บาท คิดเป็นเงิน 180 ล้านบาท
ขณะที่อดีตผู้บริหาร IFEC คนที่สองยินยอมประกันราคาซื้อคืนไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 5.50 บาท ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนของผู้ถือหุ้นใหญ่IFEC คนดังกล่าว ว่าได้ซื้อหุ้นมาจากผู้ถือหุ้นบางรายจำนวน 30 ล้านหุ้น โดยการซื้อขายหุ้นไปมาครั้งนี้ มีพฤติกรรมเพื่อให้ผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าวเข้ามาครอบงำ (ยึด)กิจการIFEC แต่ไม่ได้รายงานผลการซื้อขายหุ้นซึ่งเข้าข่ายการครอบงำ(ยึด)กิจการตามที่กฎหมายกำหนด ส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้นรายอื่นและขัดต่อพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ดังนั้น จึงได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ก.ล.ต.ในฐานะผู้กำกับดูแลตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ตรวจสอบและดำเนินการกับผู้กระทำผิด แต่ที่ผ่านมาก.ล.ต.ยังคงนิ่งเฉยไม่ดำเนินการใดๆทั้งที่ทวงถามมาโดยตลอด
ในฐานะผู้ถือหุ้นและตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อยIFEC จึงขอเรียกร้องให้ก.ล.ต.ชี้แจงต่อข้อร้องเรียนเรื่องการครอบงำ(ยึด)กิจการแบบผิดกฎหมายของผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าว พร้อมขอให้ระงับการใช้สิทธิใดๆในฐานะผู้ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าวและพวกไว้ก่อน เพราะถือเป็นหุ้นที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย(หุ้นเถื่อน) และขอให้ก.ล.ต.เร่งดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทIFEC และผู้ถือหุ้นIFEC
ผู้ถือหุ้นรายย่อย IFEC ยื่นหนังสือถึงก.ล.ต.ทวงถามความคืบหน้าจัดการผู้ถือหุ้นรายใหญ่ซื้อขายหุ้นผิดกฎหมาย หวังยึดกิจการIFEC แบบผิดกฎหมาย โดยขอให้อายัดหุ้นไว้ตรวจสอบก่อน และเร่งดำเนินการตามแนวทางของศาลอาญาที่ได้ประทับรับฟ้องคดีครอบงำกิจการไว้แล้ว
วันที่ 28 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก ผู้ถือหุ้นบริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเฟค(IFEC) เข้ายื่นหนังสือถึง เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ทวงถามความคืบหน้าข้อร้องเรียนที่เคยร้องมาหลายครั้งแล้ว เพื่อขอให้ก.ล.ต.ดำเนินการกับผู้ถือหุ้นใหญ่IFECคนหนึ่ง หลังพบพฤติกรรมกรรมที่เข้าข่ายการกระทำผิดร่วมกับอดีตผู้บริหารIFECบางคน ในการได้มาซึ่งหุ้นของIFECแบบผิดกฎหมายเข้าข่ายการครอบงำ(ยึด)กิจการ
ซึ่งในหนังสือทวงถามความคืบหน้าที่ส่งถึงก.ล.ต.ระบุว่าได้รับทราบข้อมูลจากบริษัทIFEC ว่า อดีตผู้บริหารIFEC 2 คนได้นำหุ้นไปขายต่อแก่ผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าวจำนวน 30 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5.10 บาท คิดเป็นเงิน 153 ล้านบาท โดยมีข้อตกลงว่าอดีตผู้บริหารIFECคนแรกจะซื้อหุ้นคืนในราคา 6 บาท คิดเป็นเงิน 180 ล้านบาท
ขณะที่อดีตผู้บริหาร IFEC คนที่สองยินยอมประกันราคาซื้อคืนไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 5.50 บาท ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนของผู้ถือหุ้นใหญ่IFEC คนดังกล่าว ว่าได้ซื้อหุ้นมาจากผู้ถือหุ้นบางรายจำนวน 30 ล้านหุ้น โดยการซื้อขายหุ้นไปมาครั้งนี้ มีพฤติกรรมเพื่อให้ผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าวเข้ามาครอบงำ (ยึด)กิจการIFEC แต่ไม่ได้รายงานผลการซื้อขายหุ้นซึ่งเข้าข่ายการครอบงำ(ยึด)กิจการตามที่กฎหมายกำหนด ส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้นรายอื่นและขัดต่อพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ดังนั้น จึงได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ก.ล.ต.ในฐานะผู้กำกับดูแลตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ตรวจสอบและดำเนินการกับผู้กระทำผิด แต่ที่ผ่านมาก.ล.ต.ยังคงนิ่งเฉยไม่ดำเนินการใดๆทั้งที่ทวงถามมาโดยตลอด
ในฐานะผู้ถือหุ้นและตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อยIFEC จึงขอเรียกร้องให้ก.ล.ต.ชี้แจงต่อข้อร้องเรียนเรื่องการครอบงำ(ยึด)กิจการแบบผิดกฎหมายของผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าว พร้อมขอให้ระงับการใช้สิทธิใดๆในฐานะผู้ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าวและพวกไว้ก่อน เพราะถือเป็นหุ้นที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย(หุ้นเถื่อน) และขอให้ก.ล.ต.เร่งดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทIFEC และผู้ถือหุ้นIFEC
“ที่ผ่านมาศาลอาญาได้ประทับรับฟ้องคดีที่ผู้ถือหุ้นใหญ่คนดังกล่าวถูกIFEC ยื่นฟ้องเรื่องครอบงำ(ยึด)กิจการแบบผิดกฎหมายแล้ว หลังไตร่สวนมูลฟ้องแล้วพบมูลความผิดจริงตามที่ฟ้อง คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ก.ล.ต.กลับยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆเลย แม้จะเคยร้องขอไปแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะการอายัดหุ้นไว้ตรวจสอบตามแนวทางเดียวกับที่ศาลพิจารณา” ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ถือหุ้นกล่าว #เล็ก.รอง.บก.ชี้ชัดเจาะลึก.นครบาล/รายงาน
วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2561
น.ส.พ.ประชาเสรีออนไลน์//"ผู้การอ้อ!!เป็นประธานในพิธีณาปนกิจ คุณพ่อ ของ ผบ.หมู่.ปค.ศฝร.ภ.7!!
"ผู้การอ้อ!!เป็นประธาน ในพิธีฌาปนกิจคุณพ่อ ของ ผบ.หมู่ ปค. ศฝร.ภ.7 !!
วันนี้ (27 ส.ค. 61) เวลา 16:00 น.
พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ศฝร.ภ.7 เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจคุณพ่อปรีชา หมื่นเอ บิดา ด.ต.ปพณพัชร์ หมื่นเอ ผบ.หมู่ ปค. ศฝร.ภ.7
โดยมี พ.ต.อ.บุญธรรม วรรณรัตน์ รอง ผบก.ศฝร.ภ.7 , พ.ต.อ.สายฟ้า จิราวรรธนสกุล ผกก.ปค.ศฝร.ภ.7 และข้าราชการตำรวจ ศฝร.ภ.7 เข้าร่วมพิธีดังกล่าว
วันนี้ (27 ส.ค. 61) เวลา 16:00 น.
พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ศฝร.ภ.7 เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจคุณพ่อปรีชา หมื่นเอ บิดา ด.ต.ปพณพัชร์ หมื่นเอ ผบ.หมู่ ปค. ศฝร.ภ.7
โดยมี พ.ต.อ.บุญธรรม วรรณรัตน์ รอง ผบก.ศฝร.ภ.7 , พ.ต.อ.สายฟ้า จิราวรรธนสกุล ผกก.ปค.ศฝร.ภ.7 และข้าราชการตำรวจ ศฝร.ภ.7 เข้าร่วมพิธีดังกล่าว
ณ วัดเก่าต้นมะค่า ต.บ้านคา อ.บ้านคา จว.ราชบุรี!!
น.ส.พ.ประชาเสรีออนไลน์//เจ้าหนี้ร้องศาลขอ IFEC เข้าแผนฟื้นฟูหยุดปัญหาเข้าสู่การแก้หนี้
เจ้าหนี้ร้องศาลขอIFECเข้าแผนฟื้นฟูฯ-หยุดปัญหาเข้าสู่การแก้หนี้
27 ส.ค.2561-เจ้าหนี้ร้องศาลล้มละลายกลางขอนำIFEC เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ หยุดทุกปัญหา จัดทำแผนฯนำบริษัทเข้าสู่กระบวนการแก้หนี้แบบเบ็ดเสร็จ หวังให้IFEC เดินหน้าต่อแทนการล้มละลายต้องขายทรัพย์สินใช้หนี้-ป้องกันผู้ถือหุ้นสูญเงิน
นายประสิทธิ วงศาสวัสดิ์ ทนายความของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ไอเฟค(IFEC) แถลงข่าวแจ้งนักลงทุนว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2561 บริษัทฯได้รับหมายแจ้งคำสั่งของศาลล้มละลายกลางว่า มีเจ้าหนี้รายหนึ่งของบริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อศาลล้มละลายกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ ฟ.14/2561 โดยศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ IFECแล้ว และนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 29 ตุลาคม 2561 เวลา 09.00 น.
นายประสิทธิ กล่าวว่า การที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฯมีผลทางกฎหมายให้IFECอยู่ในสภาวะพักการชำระหนี้ (Automatic stay) ตามกระบวนการฟื้นฟูกิจการในพ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 จะส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งกระทบต่อการประกอบธุรกิจและการบริหารจัดการIFEC เพื่อเป็นการรักษาธุรกิจของIFEC ให้ดำเนินการต่อเนื่องได้ตามปกติ อันจะเป็นการรักษามูลค่าทางธุรกิจของIFECและบริษัทย่อยไว้ อีกทั้งเพื่อป้องกันให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อพนักงาน ผู้ถือหุ้น และเจ้าหนี้ ทางIFECจะพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายในคดีฟื้นฟูกิจการ ให้เป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนตามกฎหมายอย่างถูกต้อง เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดแก่IFEC ผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ทุกราย
“กระบวนการฟื้นฟูกิจการของIFECซึ่งมีฐานะเป็นลูกหนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาองค์กรทางธุรกิจให้กิจการของIFECดำเนินการต่อไปได้ IFECไม่ต้องล้มละลาย ไม่ต้องถูกขายทรัพย์สินมาใช้หนี้ อีกทั้งยังทำเพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้อย่างเท่าเทียมกัน จึงเป็นการทำเพื่อประโยชน์เเก่IFECเเละเจ้าหนี้ทั้งหลาย การยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการโดยผู้ร้องขอฟื้นฟูกิจการนั้น จึงถือว่าเป็นการกระทำเเทนบุคคลอื่นด้วย” นายประสิทธิ์ กล่าว
ทนายความIFEC กล่าวอีกว่า การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการจะไม่ทำให้การประกอบกิจการของIFECต้องสะดุดหยุดลงโดยทันที โดยIFECยังสามารถประกอบกิจการได้ตามปกติเพื่อรักษามูลค่าทางธุรกิจให้ดำเนินต่อไป ซึ่งการฟื้นฟูกิจการเป็นเสมือนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือ การปรับโครงสร้างกิจการภายใต้การกำกับดูแลของศาล ทำให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการอย่างเป็นธรรมและเหมาะสมกับสภาวการณ์
27 ส.ค.2561-เจ้าหนี้ร้องศาลล้มละลายกลางขอนำIFEC เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ หยุดทุกปัญหา จัดทำแผนฯนำบริษัทเข้าสู่กระบวนการแก้หนี้แบบเบ็ดเสร็จ หวังให้IFEC เดินหน้าต่อแทนการล้มละลายต้องขายทรัพย์สินใช้หนี้-ป้องกันผู้ถือหุ้นสูญเงิน
นายประสิทธิ วงศาสวัสดิ์ ทนายความของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ไอเฟค(IFEC) แถลงข่าวแจ้งนักลงทุนว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2561 บริษัทฯได้รับหมายแจ้งคำสั่งของศาลล้มละลายกลางว่า มีเจ้าหนี้รายหนึ่งของบริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อศาลล้มละลายกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ ฟ.14/2561 โดยศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ IFECแล้ว และนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 29 ตุลาคม 2561 เวลา 09.00 น.
นายประสิทธิ กล่าวว่า การที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฯมีผลทางกฎหมายให้IFECอยู่ในสภาวะพักการชำระหนี้ (Automatic stay) ตามกระบวนการฟื้นฟูกิจการในพ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 จะส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งกระทบต่อการประกอบธุรกิจและการบริหารจัดการIFEC เพื่อเป็นการรักษาธุรกิจของIFEC ให้ดำเนินการต่อเนื่องได้ตามปกติ อันจะเป็นการรักษามูลค่าทางธุรกิจของIFECและบริษัทย่อยไว้ อีกทั้งเพื่อป้องกันให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อพนักงาน ผู้ถือหุ้น และเจ้าหนี้ ทางIFECจะพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายในคดีฟื้นฟูกิจการ ให้เป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนตามกฎหมายอย่างถูกต้อง เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดแก่IFEC ผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ทุกราย
“กระบวนการฟื้นฟูกิจการของIFECซึ่งมีฐานะเป็นลูกหนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาองค์กรทางธุรกิจให้กิจการของIFECดำเนินการต่อไปได้ IFECไม่ต้องล้มละลาย ไม่ต้องถูกขายทรัพย์สินมาใช้หนี้ อีกทั้งยังทำเพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้อย่างเท่าเทียมกัน จึงเป็นการทำเพื่อประโยชน์เเก่IFECเเละเจ้าหนี้ทั้งหลาย การยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการโดยผู้ร้องขอฟื้นฟูกิจการนั้น จึงถือว่าเป็นการกระทำเเทนบุคคลอื่นด้วย” นายประสิทธิ์ กล่าว
ทนายความIFEC กล่าวอีกว่า การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการจะไม่ทำให้การประกอบกิจการของIFECต้องสะดุดหยุดลงโดยทันที โดยIFECยังสามารถประกอบกิจการได้ตามปกติเพื่อรักษามูลค่าทางธุรกิจให้ดำเนินต่อไป ซึ่งการฟื้นฟูกิจการเป็นเสมือนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือ การปรับโครงสร้างกิจการภายใต้การกำกับดูแลของศาล ทำให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการอย่างเป็นธรรมและเหมาะสมกับสภาวการณ์
อย่างไรก็ตาม กระบวนการฟื้นฟูกิจการฯหากจะให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจะต้องให้เจ้าหนี้ส่วนใหญ่และลูกหนี้(IFEC)ตกลงร่วมมือกัน เพื่อให้กิจการของIFECสามารถดำรงคงอยู่ได้ ส่งผลให้เจ้าหนี้จะได้รับชำระหนี้อย่างเป็นธรรม และทำให้IFECไม่ต้องล้มละลาย ธุรกิจของIFECอยู่รอดต่อไปในระหว่างฟื้นฟูกิจการด้วย โดยเป็นมาตรการคุ้มครองสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินของIFECเพื่อให้IFECสามารถดำเนินกิจการของตนเองได้โดยปราศจากเหตุรบกวน หลังจากที่ศาลรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเเล้ว ศาลจะทำการไต่สวนคำร้อง เเละหากไต่สวนฯเเล้วเห็นควรให้ฟื้นฟูกิจการ ศาลก็จะมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนต่อไป ซึ่งในระหว่างการเลือกผู้ทำเเผน อำนาจในการจัดการทรัพย์สินทั้งหมดของIFECจะอยู่ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ #
วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2561
น.ส.พ.ประชาเสรีออนไลน์//งานทำบุญบริษัทก้าวหน้า2018จำกัดและแถลงข่าว ผลิตภัณฑ์Ambrand
งานทำบุญบริษัท ก้าวหน้า2018 จำกัด และแถลงข่าว ผลิตภัณฑ์ Ambrand
วันที่ 25 สิงหาคม 2561 บริษัท ก้าวหน้า2018 จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Ambrand Innovation Cleansing Rose Oil (แอมแบรนด์ อินโนเวชั่น คลีนซิ่ง โรสออย) ซึ่งบริหารงานโดยคุณแอมมี่ ณัฎฐา ชาญเลขา คุณสุชัย พงษ์เพียรชอบ คุณภศนา ทองบุญเรือง (พาส AF2) และคุณโดโด้ ยุทธพิชัย ชาญเลขา ได้จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระ เพื่อเสริมสร้างสิริมงคล ในโอกาสการเปิดบริษัทฯ ณ ที่ทำการบริษัท อาคารสิรินรัตน์ ถนนพระราม 4 โดยมีบุคคลที่มีชื่อเสียง และเหล่าดาราเข้าร่วมแสดงความยินดี อาทิ คุณนุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา , คุณซีแนม สุนทร, คุณแนนนี่ ภัทรนันท์ ดีรัศมี, คุณโซบี โชติรส ชโยวรรณ, คุณเอ็กซ์ อัศนัย เทศทะวงศ์ ฯลฯ โดยมีคุณ เปรี้ยว อนุสรา วันทองทักษ์ (เปรี้ยว AF2) เป็นพิธีกร
ภายในงานมีการแถลงข่าว เปิดตัว ผลิตภัณฑ์ Ambrand Innovation Cleansing Rose Oil คลีนซิ่งสูตรน้ำมันโรสออย ที่มีคุณสมบัติในการดูแลผิวหน้า 7 ประการ ได้แก่ 1) ลดการหลั่งไขมันที่รูขุมขน 2) การยับยั้ง Lipid Peroxidation สารต้านอนุมูลอิสระ 3) เพิ่งความชุ่มชื่นให้กับผิว 4) ยับยั้งการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน เช่น ฝ้า กระ รอยหมองคล้ำ รอยด่างขาว ขี้แมลงวัน 5) สมานแผล 6) สร้างคอลลาเจน 7) การจัดระเบียบเกี่ยวกับการทำให้เกิดเม็ดเลือดแดง โดยคุณแอมมี่ผู้บริหารสาวคนเก่งได้กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ Ambrand เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะผลิตคลีนซิ่งคุณภาพดี ให้กับทุกเพศสามารถใช้ได้ และประหยัดเวลา ซึ่งเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรเสียไป และ Ambrand ช่วยลดเวลาและบำรุงผิวในขั้นตอนเดียว และคุณโดโด้ได้เสริมว่าต่อไปในอนาคตบริษัท ก้าวหน้า2018 จำกัด จะผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีคุณภาพให้ทุกคนได้ใช้ในราคาที่คุ้มค่าโดยใส่ใจในการวิจัย และพัฒนาในทุกขั้นตอน
และในงานแถลงข่าวยังมีกิจกรรมแจกของรางวัลให้แก่นักข่าว และแขกผู้มีเกียรติมากมาย อาทิ บัตรกำนัลจาก Ambrand,ร้านอำแดงไต้ฝุ่น,Wax Club รัชโยธิน และ การ์มัวร แฮร์สปา ฯลฯ
โดยผลิตภัณฑ์ Ambrand Innovation Cleansing Rose Oil เป็นคลีนซิ่งที่ใช้ง่ายลดขั้นตอนในการล้างหน้าและบำรุงผิว โดยไม่พึ่งสำลี โฟมล้างหน้า และโทนเนอร์ ล้างและบำรุงในขั้นตอนเดียว
ด้วยสโลแกน “Ambrand สวยครบจบในขวดเดียว”
Ambrand Innovation Cleansing Rose Oil กำลังเปิดรับตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกอีกด้วย
วันที่ 25 สิงหาคม 2561 บริษัท ก้าวหน้า2018 จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Ambrand Innovation Cleansing Rose Oil (แอมแบรนด์ อินโนเวชั่น คลีนซิ่ง โรสออย) ซึ่งบริหารงานโดยคุณแอมมี่ ณัฎฐา ชาญเลขา คุณสุชัย พงษ์เพียรชอบ คุณภศนา ทองบุญเรือง (พาส AF2) และคุณโดโด้ ยุทธพิชัย ชาญเลขา ได้จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระ เพื่อเสริมสร้างสิริมงคล ในโอกาสการเปิดบริษัทฯ ณ ที่ทำการบริษัท อาคารสิรินรัตน์ ถนนพระราม 4 โดยมีบุคคลที่มีชื่อเสียง และเหล่าดาราเข้าร่วมแสดงความยินดี อาทิ คุณนุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา , คุณซีแนม สุนทร, คุณแนนนี่ ภัทรนันท์ ดีรัศมี, คุณโซบี โชติรส ชโยวรรณ, คุณเอ็กซ์ อัศนัย เทศทะวงศ์ ฯลฯ โดยมีคุณ เปรี้ยว อนุสรา วันทองทักษ์ (เปรี้ยว AF2) เป็นพิธีกร
ภายในงานมีการแถลงข่าว เปิดตัว ผลิตภัณฑ์ Ambrand Innovation Cleansing Rose Oil คลีนซิ่งสูตรน้ำมันโรสออย ที่มีคุณสมบัติในการดูแลผิวหน้า 7 ประการ ได้แก่ 1) ลดการหลั่งไขมันที่รูขุมขน 2) การยับยั้ง Lipid Peroxidation สารต้านอนุมูลอิสระ 3) เพิ่งความชุ่มชื่นให้กับผิว 4) ยับยั้งการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน เช่น ฝ้า กระ รอยหมองคล้ำ รอยด่างขาว ขี้แมลงวัน 5) สมานแผล 6) สร้างคอลลาเจน 7) การจัดระเบียบเกี่ยวกับการทำให้เกิดเม็ดเลือดแดง โดยคุณแอมมี่ผู้บริหารสาวคนเก่งได้กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ Ambrand เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะผลิตคลีนซิ่งคุณภาพดี ให้กับทุกเพศสามารถใช้ได้ และประหยัดเวลา ซึ่งเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรเสียไป และ Ambrand ช่วยลดเวลาและบำรุงผิวในขั้นตอนเดียว และคุณโดโด้ได้เสริมว่าต่อไปในอนาคตบริษัท ก้าวหน้า2018 จำกัด จะผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีคุณภาพให้ทุกคนได้ใช้ในราคาที่คุ้มค่าโดยใส่ใจในการวิจัย และพัฒนาในทุกขั้นตอน
และในงานแถลงข่าวยังมีกิจกรรมแจกของรางวัลให้แก่นักข่าว และแขกผู้มีเกียรติมากมาย อาทิ บัตรกำนัลจาก Ambrand,ร้านอำแดงไต้ฝุ่น,Wax Club รัชโยธิน และ การ์มัวร แฮร์สปา ฯลฯ
โดยผลิตภัณฑ์ Ambrand Innovation Cleansing Rose Oil เป็นคลีนซิ่งที่ใช้ง่ายลดขั้นตอนในการล้างหน้าและบำรุงผิว โดยไม่พึ่งสำลี โฟมล้างหน้า และโทนเนอร์ ล้างและบำรุงในขั้นตอนเดียว
ด้วยสโลแกน “Ambrand สวยครบจบในขวดเดียว”
Ambrand Innovation Cleansing Rose Oil กำลังเปิดรับตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกอีกด้วย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)